What's happening?

Video Sources 264 Views Report Error

  • Black Mirror Bandersnatch (2018) แบล็ก มิร์เรอร์ แบนเดอร์สแนทช์
Black Mirror Bandersnatch (2018) แบล็ก มิร์เรอร์ แบนเดอร์สแนทช์

Black Mirror Bandersnatch (2018) แบล็ก มิร์เรอร์ แบนเดอร์สแนทช์

Your rating: 0
5 1 vote

Synopsis

ในที่สุด Black Mirror ก็มีตอนใหม่ออกมาให้ดู!! ในฐานะแฟนซีรีส์เรื่องนี้เราค่อนข้างตื่นเต้น ยิ่งได้ข่าวมาก่อนว่าตัวหนังจะเป็นแนว Interactive หรือก็คือให้ผู้เล่นมีส่วนร่วมในการเลือกเส้นทางของตัวละครได้ ก็ยิ่งอยากรู้อยากดู

สำหรับตอนล่าสุดของ Black Mirror มีชื่อว่า Bandersnatch ซึ่งเป็นตอนแยกออกมาจากซีซั่น เปรียบเสมือนหนังเรื่องหนึ่งเพราะความยาวอยู่ที่ 1 ชั่วโมงครึ่ง (แม้เวลาดูจริงอาจจะนานกว่านั้นก็ตามเพราะมัวแต่หลงทางในกับดักตัวเลือก)

เนื้อเรื่องของ Bandersnatch ย้อนกลับไปในปี 1984 มีตัวเอกเป็นเด็กหนุ่มโปรแกรมเมอร์นามว่าสเตฟาน ผู้ซึ่งกำลังพัฒนาเกม Bandersnatch ซึ่งดัดแปลงมาจากนิยายชื่อเดียวกัน โดยจุดเด่นของเกมผจญภัยนี้คือผู้เล่นสามารถเลือกเส้นทางให้ตัวละครในเกมได้ เหมือนในนิยายนั่นแหละ

เรื่องทุกอย่างเริ่มต้นเมื่อสเตฟานตั้งใจจะไปบรีฟเกมของเขากับบริษัทเกมแห่งหนึ่ง ซึ่งเรื่องราวหลังจากนั้นก็จะมีทางเลือกต่างๆ มาให้เราตัดสินใจ ผลลัพธ์ของการกระทำก็จะแตกต่างกันออกไป บางครั้งก็วนลูปกลับมาจุดเดิม บางครั้งก็เจอทางตัน บางครั้งเรื่องราวก็ไปต่อ ขึ้นอยู่กับว่าเราอยากให้ตัวละครเดินไปทางไหน

สิ่งหนึ่งที่ต้องชมเลยคือการตัดต่อของหนัง ซึ่งทำได้เนียนกริ๊บไม่ว่าเราจะเลือกทางไหนก็ตาม ดูๆ ไปแล้วก็เหมือนหนังเรื่องนึงที่เล่นต่อกันไปเลยโดยที่คนดูไม่มีส่วนร่วม (แต่จริงๆ คือมี)

และแน่นอนว่าเรื่องราวที่คนดูสามารถเลือกเส้นทางได้เองนั้นย่อมหนีไม่พ้น bad end หรือก็คือตอนจบที่ไม่สวยเท่าไร (เป็นที่คาดเดาได้กับตระกูล Black Mirror) สำหรับเรื่องนี้คือมี 2 แบบ มีจบไม่สวยแบบจบจริงๆ กับจบไม่สวยแบบให้เราย้อนกลับไปแก้ไขตัวเลือกในอดีตได้ ซึ่งแบบหลังนี่ระบบหนังเค้าก็ดีนะ คือเค้าจะคัดเลือกมาให้เลยว่าเราสามารถย้อนกลับไปจุดตัดสินใจจุดไหนได้ ไม่ต้องย้อนกลับไปดูตั้งแต่เริ่มต้น พอเลือกจุดตัดสินใจได้แล้ว ตัวหนังก็จะ fast forward ตั้งแต่ฉากแรกมาจนถึงจุดตัดสินใจที่เราเลือกใหม่

และในหลายๆ ครั้งที่เราวนลูปกลับไป เหตุการณ์ก็ไม่ใช่ว่าจะซ้ำกันทื่อๆ นะ เพราะบางทีเราก็จะเจอรายละเอียดเล็กน้อยที่เปลี่ยนไป เช่น ตัวละครทักประโยคใหม่ว่า “เหมือนเคยเจอกันนะ” ทั้งที่เป็นฉากเดียวกันกับรอบก่อน หรือ การที่ตัวเลือกเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะเป็นฉากเดิมที่เคยเจอมาแล้ว ซึ่งตัวเลือกที่เปลี่ยนไปนี้ก็จะพาเราไปพบเหตุการณ์ใหม่ๆ และอาจจะเจอตอนจบใหม่ก็ได้ เราคิดว่าคนทำคงตั้งระบบไว้อย่างดีเลยว่าหากเราผ่านจุดนี้มาแล้ว ก็ไม่ต้องกลับไปเจอจุดนี้อีก ให้ไปจุดใหม่ได้เลย จะได้ไม่เบื่อ อะไรประมาณนั้น

ทางด้านเนื้อเรื่อง เราขอเขียนถึงไม่มากละกันเพราะเดี๋ยวจะสปอยล์ แต่เอาเป็นว่า Black Mirror ก็ยังสอดแทรกด้านมืดของเทคโนโลยีเข้ามาเช่นเคย แม้ว่ารอบนี้จะไม่ได้ชัดเจนโจ่งแจ้ง มาเป็นแนวสารลับมากกว่า ซึ่งผู้ชมต้องตีความเอาเอง โดยรวมบรรยากาศของหนังยังคงไว้ด้วยกลิ่นอายความดาร์กและเสียดสี  ที่เด็ดคือมีการกัด Netflix เองด้วย ฉากนี้ฮาจริง เป็นฉากที่ฮาแบบป่วงๆ ดี

สรุปแล้ว Black Mirror: Bandersnatch เป็นอีกหนึ่งหนังน่าดูในวันหยุด ย้ำว่าวันหยุด เพราะคุณอาจจะเพลินกับการวนลูปหรือกลับไปเลือกทางเลือกใหม่ๆ เพื่อดูฉากที่ไม่เคยเห็นมาก่อน และนั่นหมายความถึงเวลาที่อาจจะเกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที สำหรับเรา เราทำเวลาได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาทีพอดี แต่กรณีนี้คือกรณีที่เก็บไม่ครบทุกตอนจบอะนะ คือไปถึงแค่ตอนจบที่เป็นแบบจบจริง (ไม่ต้องวนลูป พอจบก็ขึ้นเอ็นด์เครดิตเลย) ถ้าจะเก็บให้ครบทุกฉาก ทุกความเป็นไปได้ ทุกตอนจบ คาดว่าจะต้องใช้เวลาดูอีกสักพักใหญ่

สุดท้ายแล้ว เราก็หวังว่า Netflix จะมีหนังแนว Interactive มาให้เล่นอีก มันเป็นอะไรที่บันเทิงดีจริงๆ

Director

Director

Cast

Similar titles

Saints and Soldiers (2003) สงครามปลดแอกความเป็นคน
Creepy (2016) สืบอำมหิต จิตอย่าหลุด
The 33 (2015) 33 ใต้นรก 200 ชั้น
The Life Of David Gale (2003) แกะรอย ปมประหาร
Dear Eleanor (2016) เอเลนอร์ที่รัก
Three Kings (1999) ฉกขุมทรัพย์มหาภัยขุมทอง
The Jungle Book (2016) เมาคลีลูกหมาป่า
Goosebumps (2015) คืนอัศจรรย์ขนหัวลุก
Pinocchio (2015) พิน็อคคิโอ
Downhill (2020) ชีวิตของเรา มันยิ่งกว่าหิมะถล่ม
Between Worlds (2018) วิญญาณ-คลั่ง-รัก
Pokémon Detective Pikachu (2019) โปเกมอน ยอดนักสืบพิคาชู