เปิดเรื่องมาด้วยเด็กชายวัยน่ารักชื่อ ติน ที่ชื่นชอบในมังกรเป็นอย่างมากได้มาเจอกับ หลี่นา ที่เป็นเด็กสาววัยเดียวกันที่ทั้งคู่ก็รู้ว่าชอบในสิ่งเดียวกัน จึงค่อยๆเริ่มเป็นเพื่อนกัน ไปเที่ยวเล่นด้วยกัน แล้วทั้งคู่สัญญาว่าจะเป็นเพื่อนกันตลอดไป
แต่แล้วหลี่นาได้ย้ายบ้านไปอยู่ที่ใหม่จนทั้งคู่ไม่ได้พบเจอกันมาหลายปี จนกระทั่งทั้งคู่เติบโตเป็นวัยหนุ่มสาวแล้วกลับมาพบกันอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งตินเป็นชายธรรมดาคนหนึ่งที่ทำอาชีพส่งอาหารส่วนหลี่นาเธอเป็นดาราดังที่มีชื่อเสียงมากจนตินไปอาจที่เอื้อมไปถึง จนวันหนึ่งตินได้พบกับกาน้ำชาที่มีแสงออกมาพร้อมมังกรชื่อ จงจู ซึ่งเป็นมังกรที่จะทำให้คำอธิษฐานของตินเป็นจริงแล้วเรื่องราวชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไร
Wish Dragon มังกรอธิษฐาน เป็นการ์ตูนที่ดำเนินเรื่องด้วยความเรียบง่ายและนำมุมมองของสังคมจริงบางส่วนมาเติมใส่ในคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนซึ่งมันทำให้เรื่องราวสมจริง แถมฉาก การออกแบบตัวการ์ตูน รวมไปถึงแสง สี และการพากย์เสียงดูลื่นไหลและน่าติดตามมากๆเลย แถมเรื่องนี้ยังให้ความรู้สึกอบอุ่นอยู่ตลอดเรื่อง แถมยังเป็นความประทับใจที่ทำให้เราอมยิ้มบ่อยมากๆ และตัวละครในเรื่องก็ทำออกมาได้โดดเด่นและดูสมดุล ส่วนตัวชอบมากขอให้คะแนนความสนุกของ Wish Dragon มังกรอธิษฐาน นี้อยู่ที่ 10/10 คะแนนเลย ไม่มีส่วนไหนที่หักเลยดีต่อใจและสามารถดูคลายเครียดหรือดูเพื่อเติมพลังความคิดให้กับตัวเองได้เลยดีมาก
มิตรภาพที่ดียังคงอยู่ในใจเสมอไป พอในชีวิตของคนเรามีมิตรภาพเพื่อนที่ดีมันจะเป็นอะไรที่น่าจดจำอยู่ภายในใจเสมอ ต่อให้เราไม่ไม่เจอกันนับสิบๆปีเราก็ยังคงจำมิตรภาพที่ดีนั้นได้เสมอ
เงินทองเป็นของนอกกาย จริงๆในสมัยนี้ใครก็อยากมีชื่อเสียงหรือหน้าตาทางสังคม รวมไปถึงความรวยและเงินทองที่มากมายแต่เงินทองเหล่านั้นมันเทียบไม่ได้เลยกับชีวิตของคนๆหนึ่ง
โลภมากลาภหาย คนที่มักจะอิจฉาและเห็นผู้อื่นได้ดีไม่ได้แถมยังอยากที่จะเอาของของคนอื่นมาเป็นของตัวเองท้ายที่สุดคนโลภจะไม่ได้อะไรเลยนอกจากความผิดหวังเพราะไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ
อยากจะบอกว่า Wish Dragon มังกรอธิษฐาน เป็นอีกเรื่องที่ทำให้เราเห็นถึงมิตรภาพและคุณค่าของชีวิตมากยิ่งขึ้นเป็นอะไรที่น่าประทับใจมากจริงๆใครที่ยังไม่ดูต้องดูนะคะแล้วคุณอาจจะได้ข้อคิดอะไรมากขึ้นกับชีวิตของเรา มันดีมาก
อนิเมชั่นสูตรสำเร็จแบบอะลาดินในประเทศจีน The Monk Studio สตูดิโอจากประเทศไทยร่วมสร้าง มีดีในด้านเรื่องราวที่ดูเพลิน การนำเสนอแบบเข้าใจง่าย และประเด็นสุดจริงแบบมนุษย์เกินกว่าอนิเมชั่น ตัวละครต่างมีเคมีเข้ากัน เพลงประกอบลงตัว โชว์ให้เห็นถึงวัฒนธรรมจีนได้อย่างลื่นไหล พร้อมคติสอนใจที่ไม่ยัดเยียด งานภาพสุดน่ารัก และสีสันลูกกวาดสดใสละลานต่อ เสียงพากย์ไทยยอดเยี่ยมมาก ๆ แม้ว่าจะไม่ได้มีงานภาพหรือชั้นเชิงอะไรที่แปลกใหม่และโดดเด่น ยอดเยี่ยมอะไรขนาดนั้น
Wish Dragon มังกรอธิษฐาน ผลงานภาพยนตร์อนิเมชั่นจากโซนี่ กำกับและเขียนบทโดย คริส แอปเพลฮันส์ ผู้กำกับหน้าใหม่ที่นั่งแท่นกำกับอนิเมชั่นเรื่องยาวเป็นครั้งแรก หลังจากทำงานในส่วนสาขาของอนิเมชั่นดังหลายเรื่อง เช่น The Princess and the Frog, Coraline โดยมี แจ็คกี้ ชาน หรือที่คนไทยรู้จักจากภาพยนตร์กำลังภายใน เฉินหลง นั่งแท่นเป็นโปรดิวเซอร์ พร้อมได้เสียงพากย์โดยนักแสดงชาวอเมริกันจีนอย่าง จิมมี่ หว่อง,จอห์น โช, คอนสแตนซ์ วู พร้อมความพิเศษคือสตูดิโอเล็ก ๆ จากประเทศไทย The Monk Studio ร่วมกับสตูดิโอดังอย่าง Base FX, Columbia Pictures, Sony Pictures Animation, Beijing Sparkle Roll Media Corporation, Tencent Pictures, Flagship Entertainment Group, Boss Collaboration and Cultural Investment Holdings โดยภาพยนตร์ร่วมทุนเรื่องนี้เป็นอีกเรื่องที่โดนพิษโควิดต้องลงเอยด้วยการที่ NETFLIX ทุ่มทุนซื้อมาฉายเช่นเดียวกับ The Mitchells vs The Machines โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับคำชมโดยสื่อจากต่างประเทศหลังจากที่เคยฉายในโรงภาพยนตร์ของจีนเมื่อเดือนมกราคม นี่อาจจะเป็นม้ามืดอีกเรื่องของโซนี่เลยก็ได้เมื่อเห็นกระแสตอนนี้ที่ไปในทางที่ดี จนถึงขนาดว่า Wish Dragon 2 กำลังอยู่ในขั้นตอนการสร้างแล้วเรียบร้อย มันมีดีอะไรถึงได้ทำให้มันได้รับเสียงตอบรับดีแบบนี้ มาดูกันดีกว่าครับ
เรื่องราวการหยิบนิทานอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ ผสมกับวัฒนธรรมผู้คนในเมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนยุคสมัยใหม่ และความเป็นจริงมากเกินอนิเมชั่นเด็กทั่วไปผ่านตัวละครของ ติ่น ชายหนุ่มผู้จิตใจดีและเพ้อฝัน และเชื่อมั่นในความพยายามของตัวเองมากกว่าทุกสิ่ง แต่โลกความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น และมันก็ช่างวุ่นวายเกินกว่าที่เขาจะยอมรับได้ ทั้งในเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิต กระทั่งเขาได้รับเลือกให้เป็นเจ้านาย ผู้ถือครองกาน้ำชาโบราณ 1000 ปี คนสุดท้ายโดย หลงจือ มังกรอธิษฐานที่มีอำนาจสามารถให้พรวิเศษได้ 3 ข้อ แล้วจากนั้นหลงจือจะได้เป็นอิสระ ติ่นจึงได้ใช้พรทั้งหมดในการเข้าหาเพื่อนซี้สมัยเด็กอย่าง หลี่นา หญิงสาวผู้งดงามเกินเอื้อมคว้าและสวมรอยเป็นหนุ่มเศรษฐีนามว่า แดน แต่แล้วเมื่อตำนานอะลาดินจีนไม่ได้มีแค่คนดีที่รับรู้ อันตรายก็เริ่มคุกคามติ่นและหลงจือ และดึงให้หลี่นาเข้าสู่เกมไล่ล่าสุดแสนวุ่นวายไปทั่วเมือง แต่สิ่งสำคัญกว่าทุกสิ่งคือหากมีสิทธิ์ขอพร จะขอสิ่งสำคัญใดต่างหาก และการผจญภัยสุดอัศจรรย์เพื่อเรียนรู้ความหมายชีวิตของคนและมังกรจึงเริ่มต้นขึ้นพร้อมมิตรภาพที่งดงามของทั้งคู่
การเล่าเรื่องของอนิเมชั่นเรียกได้ว่าเป็นสูตรสำเร็จในการดัดแปลงนิทานอะลาดินกับตะเกียงวิเศษ เรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคนจนกับคนรวยที่เคยสนิทกันตอนเด็ก จนฐานะแยกทั้งคู่ให้ห่างเหินกัน กระทั่งคนจนนมีพลังวิเศษทำให้ทั้งคู่ได้กลับมาเจอกัน ทุกอย่างมันก็ดูจะเป็นอะไรที่เดาง่ายใช่มั้ยครับ แต่ความจริงคือไม่ใช่เลย มันเป็นอนิเมชั่นแฟนตาซี แต่แฝงไปด้วยประเด็นสุดสมจริงมากมายผ่านตัวละคร ติ่น คือชายหนุ่มผู้ยากไร้แต่ได้รับพลังวิเศษในการขอพร เขานั้นก็มีความเห็นแก่ตัวต้องการที่จะเป็นใหญ่เพื่อให้ได้ใจเพื่อนสาวคนสนิทด้วยหัวใจอันบริสุทธิ์ ทว่าเมื่อเขาได้ค้นพบว่าโลกแห่งความจริง เงินเป็นสิ่งสำคัญมันก็ทำให้ตัวละครนี้หักเหไป เช่นเดียวกับหลงจือ เป็นมังกรซุ่มซ่ามกวนโอ๊ย ไม่เชื่อใจใคร และสนใจแค่ตัวเอง ไม่อยากสนใจความรู้สึกของคนอื่น แต่พอมาดูภูมิหลังเรื่องราวแล้วเราจะพบเหตุผลว่าทำไมถึงต้องเป็นแบบนั้น และนำไปสู่การผจญภัยเพื่อเอาตัวรอดเมื่อมีคนต้องการพลังวิเศษของเขาเหมือนกัน มันจึงค่อย ๆ ทำให้ตัวละครได้เรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน
ตัวละครรองอื่น ๆ อย่าง หลี่นา ตัวละครหญิงที่เหมือนจะมาเป็นแค่นางฟ้าผู้ร่ำรวย แต่เธอเองก็มีปมเกี่ยวกับครอบครัว การที่เธอพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ความชื่นชมจากคนรอบตัว จนมันทำลายความสุขในตัวของเธอเองและหลงลืมความสำคัญของชีวิต กระทั่งเธอได้พบกับติ่น แต่ถึงแบบนั้นหลี่นาก็เป็นตัวละครที่มีความเห็นแก่ตัวในแบบที่คาดไม่ถึง นอกจากนี้ตัวละครอื่น ๆ อย่างแม่ติ่นก็ทำหน้าที่เป็นเหมือนตัวแทนครอบครัวคนจีนที่เป็นห่วงลูกแต่ไม่สามารถแสดงออกให้เห็นได้จนทำให้ลูกนั้นรู้สึกไม่มีความหมาย หรือพ่อของหลี่นาที่ทำทุกอย่างแม้กระทั่งสั่งการให้คนของตัวเองเพื่อรักษาอำนาจและความยิ่งใหญ่เอาไว้ ตัวละครเหล่านี้นั้นถูกครอบงำด้วยความต้องการทั้งในด้านบวกและด้านลบ แต่ทว่าสุดท้ายแล้วคำอธิษฐานมันก็กลายเป็นดาบสองคมที่อาจให้ทั้งผลดีและผลเสียได้เช่นเดียวกัน แม้ว่าบทสรุปและภาพรวมของเรื่องจะสูตรสำเร็จมากก็ตาม
ในด้านความตลกก็มีใส่มาอยู่หลายฉากที่จะมีสถานการณ์ที่ตัวละครทำตัวเปิ่น ๆ หรือฉากที่พูดจาล้อเลียน แซะจิกกัดคนร่ำรวยหรือแม้แต่คนจนที่ต่างมีข้อเสียคือความทะเยอทะยานจนมีผลต่อความเชื่อใจของตัวละครในเรื่อง นอกจากนี้แล้วด้วยความสมเหตุสมผลของเรื่องราวที่ถูกร้อยเรียงอย่างฉลาดและย่อยง่ายมากสำหรับผู้ชม บวกกับมุกตลกที่มีตั้งแต่ขำน้อยไปจนขำหนักมากอย่างน้อยฉากใดฉากหนึ่งก็ยิ่งทำให้อนิเมชั่นเรื่องนี้เข้าถึงคนดูทุกเพศทุกวัย
ตัวละครทุกตัวต่างมีคาร์แร็คเตอร์และมุกเฉพาะตัวที่ปล่อยออกมาตามจังหวะที่เหมาะสม ทั้งดูน่ารัก น่าหยิก ด้วยลายเส้นที่มีความเป็นจีนแต่ไม่ได้จีนจ๋า เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างงานอนิเมชั่นแบบอเมริกาและจีนมากกว่า ตัวละครมีเคมีต่อกันทั้งตัวเอกและตัวร้าย และไม่มีตัวละครที่ดูเป็นส่วนเกินของเรื่องด้วยซ้ำ เรียกได้ว่าทำได้ดีตามมาตรฐานและความเหมาะสมของเรื่องราว โดยเฉพาะตัวละครของติ่นกับหลงจือที่เคยส่งเสริมกันเป็นอย่างดี เวลาที่ทั้งสองคนนี้อยู่ จะมีเรื่องราวสนุกมากมายเกิดขึ้นตลอด และมีปมของตัวละครที่ถูกปูไว้ จะทำให้เราอินกับความสัมพันธ์ในช่วงท้าย ๆ ด้วย
ประเด็นสอนใจตลอดเรื่อง เรื่องความไม่โลภ ความไม่เห็นแก่ตัว ความรักภายในครอบครัว และการยอมรับความจริง แต่ก็ยังสามารถมองโลกในแง่ดีได้ในแบบที่ถูกทางไม่เพ้อฝันเกินไปและไม่จริงจังจนเกินไป พร้อมทั้งสอดแทรกภาพสังคมจีน เช่น ของกิน เมืองเซี่ยงไฮ้ มังกร ตัวหนังสือ งานเชิดมังกร ภาพสะท้อนของครอบครัวคนจีนที่ส่วนใหญ่จะอยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่ มีช่วงเวลาที่ได้ทานข้าวด้วยกัน ทำกิจกรรมร่วมกันซึ่งชวนให้น่าอบอุ่นเมื่อเทียบกับโทนเรื่องที่ไปในทางสมัยใหม่ แต่ก็ยังสามารถใส่ฉากเหล่านี้เข้ามาได้อย่างไม่ขัดเขิน พร้อมทั้งเสริมให้เรื่องราวและปมของตัวละครในเรื่องมันค่อย ๆ คลายอีก ถือเป็นความฉลาดมากที่อนิเมชั่นนี้ใช้วัฒนธรรมแบบคนจีนได้อย่างลื่นไหลจริง ๆ และผมก็ชอบมันมากเพราะดูแล้วก็รู้สึกว่า ต่อให้ไม่ได้ร่ำรวย แต่แค่มีครอบครัว มีคนที่รักรออยู่ที่บ้าน มันก็เพียงพอแล้วที่ชีวิตเรามีความสุขโดยไม่ต้องร่ำรวยมีเงินมีทองอะไร คำอธิษฐานไม่สำคัญเท่ากับการพอใจในการใช้ชีวิต
เรื่องราวถูกนำเสนอออกมาให้เห็นถึงมูลเหตุจูงใจของตัวละครที่ถูกปูมาตั้งแต่ตอนเริ่มเรื่อง อย่าง ติ่น ในอดีตเป็นเด็กไม่เคยได้รับการสนใจ จนกระทั่งหลี่นาเข้ามาในชีวิต ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาต้องทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ได้เจอเธออีกครั้ง หลงจือเป็นขุนนางเก่า ครั้งยังมีชีวิตทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจจนกระทั่งเขาไม่เหลือใครในวันตายนั่นทำให้เขากลายเป็นมังกรอธิษฐาน หลี่นา หญิงสาวที่ดูสมบูรณ์แบบเพราะได้รับการปลูกฝังจากพ่อที่ทำงานอย่างหนัก จนลืมสิ่งสำคัญที่สุดแล้วทุ่มทำงานให้กับสังคมชนชั้นสูง แม้กระทั่งการปฏิเสธคนที่มีฐานะด้อยกว่าเพื่อความก้าวหน้าของตัวเอง กว่าเธอจะคิดได้ก็เกือบสายไปแล้ว ตัวละครทั้งหมดทุ่มเทเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ แต่คำอธิษฐานเป็นสิ่งที่ทำให้ตัวละครได้เรียนรู้ได้พัฒนาตัวเองเพื่อที่จะเข้าใจความหมายของชีวิตว่าเราไม่จำเป็นต้องพยายามขวนขวายอะไร แต่แค่เราสบายใจที่ได้ทำในสิ่งที่ต้องการก็พอ ฟังเสียงหัวใจของตัวเองแล้วจะได้พบกับความจริง ซึ่งหนังอาจจะไม่ได้เล่าอะไรมากมาย แต่ก็ทำให้เราเห็นว่าตัวละครแต่ละตัวคิดยังไงและทำยังไงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ในด้านงานภาพก็ต้องบอกเลยว่าทำออกมาได้ดี โทนสีลูกกวาดสวยละลานตามาก เรียกได้ว่าเป็นอนิเมชั่นที่สีสันจัดเต็มอีกเรื่อง โดยเฉพาะช่วงเอฟเฟกต์ต่าง ๆ เรียกได้ว่าชวนให้ตื่นตาตื่นใจ และรายละเอียดของสิ่งของในฉากก็เก็บงานใช้ได้เลย แม้ว่าความเนียนของภาพจะไม่ได้ถึงขั้นของอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ค่ายใหญ่ แต่มันก็เป็นอนิเมชั่นคุณภาพฟอร์มดีที่ดูสนุก และดูเพลิน การเคลื่อนไหวนั้นดูลื่นไหลและเป็นธรรมชาติ แม้ว่างานอนิเมชั่นเรื่องนี้จะไม่ได้แปลกใหม่กว่าอนิเมชั่นเรื่องก่อนของค่ายที่มีสไตล์เป็นเอกลักษณ์
แต่ยังทำได้ดีในมาตรฐานของอนิเมชั่นที่เคยฉายโรงทและพอมาลงเน็ตฟลิกซ์มันก็ยังดูดีในบริการสตรีมมิ่ง อาจจะเพราะมันเป็นอนิเมชั่นที่ยังเป็นสูตรสำเร็จในสมัยนี้ ส่วนในเรื่องของเสียงดนตรีและเพลงประกอบนั้นก็ลงตัวมาก มีดนตรีโบราณร่วมสมัยแบบจีนบอกตัวเองว่าเป็นอนิเมชั่นจีนนะ แต่บางฉากก็จะเป็นดนตรีออร์เครสต้าที่ถูกเรียบเรียงอย่างดี แถมยังช่วยบิวต์อารมณ์ในเรื่องได้ดีมาก ๆ เช่นเดียวกับเสียงพากย์ที่มีความดีงามแทบทุกคน โดยเฉพาะพากย์ไทยก็พากย์ได้ถึงใจมาก