What's happening?

Video Sources 454 Views Report Error

  • The Shape of Water (2017) เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์

Synopsis

หนัง The Shape of Water หรือชื่อไทยว่า เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์ เรื่องราวของ Eliza(แสดงโดย แซลลี ฮอว์คกินส์)ภารโรงสาวผู้เป็นใบ้เธอทำงานทำความสะอาดให้กับห้องแล็ปของรัฐบาลสถานที่ที่เธอได้พบรักกับสิ่งที่เรียกว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของที่แห่งนี้ มันคืออมนุษย์ใต้น้ำ(แสดงโดย ดั๊ก โจนส์)มันถูกคุมขังและเตรียมถูกทดลองที่โหดร้ายทารุณซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่สตริคแลนด์(แสดงโดย ไมเคิล แชนนอน)นั่นทำให้อิไลซาที่เริ่มมีความรู้สึกดีๆให้กับเจ้าอมนุษย์ตัวนี้เริ่มวางแผนที่จะพามันหลบหนีให้ได้

หนัง The Shape of Water หรือชื่อไทยว่า เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์ An other-worldly fairy tale, set against the backdrop of Cold War era America circa 1962. In the hidden high-security government laboratory where she works, lonely Elisa (Sally Hawkins) is trapped in a life of isolation. Elisaandapos;s life is changed forever when she and co-worker Zelda (Octavia Spencer) discover a secret classified experiment.

The Shape Of Water | Guillermo del Toro

หนังลำดับล่าสุดของเดลโทโร ผู้กำกับมากความสามารถ และยังเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่น่าจับตามองมากๆ ในปีนี้ โดยคราวนี้กลับมาพร้อมกับรวบรวมองค์ประกอบมากมายที่เขาได้ผจญภัยในฮอลลีวูด มีส่วนผสมโหดร้ายแบบแพนไลเบอลินท์หนังยุคแรกเริ่มของเดลโทโร กับโลกใหม่ๆ จากเฮลบอย ความบันเทิงเฮฮาแบบตลาด และความตระกาลตาCGเทพๆ โดยหนังเรื่องนี้เป็นการรวมองค์ประกอบในตัวของเขาตลอดมา กลั่นอย่างลงตัว ออกมาได้อย่างงดงาม และน่าจับใจ

The Shape Of Water เป็นเรื่องราวของอิไลซ่า พนักงานทำความสะอาดใบ้ ซึ่งค่อยๆ ตกหลุมรักต้องห้ามกับสัตว์ประหลาดในแล็บ จนนำไปสู่การดิ้นรนต่อสู้ และอิสระของตัวสัตว์ประหลาด หนังได้รับแรงบันดาลใจจากหนังอสูรกายยุคเก่า แต่ก็เปี่ยมล้นไปด้วยประเด็นร่วมสมัย พอก้าวผ่านมาสู่ยุคนี้ ผ่านผู้กำกับมือดี มันก็ออกมาได้ลงตัวจนน่าตกใจ สนุก งดงาม ตื่นเต้น และก็รุนแรงดี

เราชอบองค์ประกอบความรุนแรงที่แสดงออกอย่างเจาะจง และแนบเนียนอยู่ระหว่างนาทีในหนังได้อย่างบ้าคลั่ง คือถ้าหนังไม่มีความโหดร้าย และเลือดในระดับนี้ มันก็จะกลายเป็นหนังรักโรแมนติกใสๆ ไปเลย แต่พอมีมีบรรทัดของความรุนแรงรองรับเนื้อเรื่องอยู่เสมอ ที่นอกจากจะออกมาจากการแสดงออกแล้ว มันยังคุกกรุ่นแฝงตัวอยู่ในระหว่างตัวละครทุกตัวได้อย่างแนบสนิท มันก็เลยกลมกล่อมอย่างน่าประหลาด เป็นส่วนผสมที่โรแมนติคคาวเลือดสุดๆ

แถมหนังยังมีประเด็นของเรื่องผู้คนชายขอบที่สังคมละเลยเอาไว้เป็นจำนวนมากจากความรุนแรงทั้งหลาย ไม่ใช่แค่ผู้หญิงที่เป็นประเด็นในสังคมภาพยนตร์ตอนนี้เท่านั้น แต่หนังได้ขยายตัวเองไปในพื้นที่ของคนพิการ LGBT คนดำ วิทยศาสตร์ รวมถึงสัตว์ประหลาดอันเปรียบเปรยได้เคียงเทพเจ้า ภายใต้การปกครองของชายผิวขาวผู้เป็นใหญ่ สถานที่ที่ผู้คนเชิดชูคาดิแลค หน้าที่การงาน ที่แม้กระทั่งวิทยาศาสตร์ยังไม่อาจต่อกรได้

ไม่มีใครต่อกรกับ “ห้าดาว” บนไหล่ของนายพลฮอยด์ได้เลย

โดยถ้าหากสังเกตุดีๆ อย่างตัวร้ายชายผิวขาว ริชชาร์ด สติคแลนด์ ก็เป็นตัวอย่างของการกดทับอำนาจที่ส่งต่อมาจากเบื้องบน คือ สูงใหญ่ เป็นอดีตทหาร สนใจหน้าที่การงาน รถ มีไอ้แท่งไฟฟ้าอันเบ้งไว้ข่มใครต่อใคร  เราชอบความกลมของตัวละครตัวนี้นะ ถ้าดูดีๆ เราจะพบว่า ริชชาร์ด สติคแลนด์ ก็เป็นแค่ผลของกระบวนการทำซ้ำ เขาเป็นพ่อที่ดีซะด้วยซ้ำ ภรรยารัก เด็กๆ ก็รัก เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่ทำตามหน้าที่ โดยเฉพาะหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัย ซึ่งแน่ล่ะว่าเราก็จะสามารถตีความตัวละครตัวนี้ไปถึงตัวแทนของอเมริกาได้เลย ดังนั้นตัวร้ายที่แท้จริงก็คือดาวบนไหล่ ซึ่งมันใหญ่โตกว่าแทงไฟฟ้าของสติคแลนด์มากนัก ที่ปกครองอย่างเสร็จสรรพ ทำซ้ำผลผลิตน่าหวาดกลัวนี้ จนสามารถทำอะไรกับใครก็ได้ โดยเฉพาะการ “ฆ่า” อะไรบางอย่างที่พวกเขาไม่เห็นสมควรว่าควรอยู่ในสังคมของเขา (ถ้าสังเกตต่อไปอีก เราจะพบว่าผู้ชายในหนังเรื่องนี้ทุกคนล้วนห่วยแตกไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง)

เรื่องราวของหนังจึงไม่ใช่การดิ้นต่อสู้เพื่อสิทธิหรืออะไรทั้งนั้น แต่เป็นกระบวนการช่วยเหลือที่มีต่อการใช้ชีวิต คือยังไม่ต้องไปถึงสิทธิขั้นพื้นฐานหรืออิสระภาพใดๆ หรอกในเมื่อชีวิตในมือกำลังจะถูกฆ่า ยังไงก็ต้องเอาตัวรอดไปก่อน มันก็เลยเป็นการกบฏเล็กๆ ภายใต้สิ่งที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอยู่ดี ดูเผินๆ หนังอาจโรแมนติคมากๆ จนหลงลืมหนังเก่าๆ ของเดลโทโรไป แต่หากเข้าไปสัมผัสเนื้อเรื่อง เราจะพบว่ารอยต่อของความรุนแรงยังคงดำเนินต่อเสมอ ไม่ว่าจะในพื้นที่ไหนๆ ของเนื้อเรื่องที่ปฏิบัติต่อคนชายขอบทั้งหลาย องค์ประกอบความรุนแรงก็ยังเปี่ยมครบ ดำเนินต่อไปในอนาคตของหนัง เพียงแต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่เดลโทโรนำเสนอออกมาให้แตกต่างจากปกติหน่อยหนึ่งก็คือ การมีความสุข และการมีความรัก ภายใต้อำนาจจากการถูกกดทับของชายผิวขาวเหล่านั้น

พวกเขามีชีวิตอยู่ เอาตัวรอดต่อไปในวันพรุ้งนี้ ก็เพื่อที่จะมีความสุข …เพื่อจะมีชีวิต

กราฟฟิคของเดลโทโรยังไงก็เป็นเลิศอยู่แล้ว ทั้งงดงาม น่าหวาดกลัว และคุมโทนสีได้เหงา แปลกประหลาดได้สุดๆไปเลย โดยเฉพาะการเล่นสีเขียวและแดงของทั้งเรื่อง การแสดงของอิไลซ่านี่ดีมากๆ โดยเฉพาะฉากพาฝันที่เหมือนระเบิดออกมาจากความรู้สึกทั้งหลาย และเพลงก็เพราะ หยาดเยิ้มในไสตล์โบราณ

เป็นผลงานที่ลงตัว มีองค์ประกอบที่พอจะท้าทายออสการ์ได้ มันทำให้เรารู้จักโลกที่ไม่ใช่แค่ไร้เพศสภาพเท่านั้น แต่มันไปถึงความไร้พรหมแดนของความสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ Beauty and The Beast ไม่เคยไปถึง แต่หนังเรื่องนี้ก็นำเสนอความรักอันไร้พรหมแดนได้อย่างเปี่ยมชัด ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความรักหนุ่มสาวเท่านั้น

เป็นหนังวาเลนไทน์คาวเลือดที่งดงามจริงๆ

Original title The Shape of Water (2017) เดอะ เชพ ออฟ วอเทอร์

Director

Director

Cast

Similar titles

Crawl (2019) คลานขย้ำ
IO (2019) ผู้ยืนหยัดคนสุดท้าย
The Binding (IL Legame) (2020) พันธนาการมืด
Sleeping with the Enemy (1991) กระชากรักด้วยเลือด
James Bond 007 GoldenEye (1995) เจมส์ บอนด์ 007 ภาค 17
The Dead Zone (1983) มิติมรณะ
National Treasure (2004) ปฎิบัติการเดือดล่าขุมทรัพย์สุดขอบโลก
Spider Man 1 (2002) ไอ้แมงมุม สไปเดอร์แมน 1
Fifty Shades of Grey (2015) ฟิฟตี้เชดส์ออฟเกรย์
Eastern Promises (2007) บันทึกบาปสัญญาเลือด
The Fifth Element (1997) รหัส 5 คนอึดทะลุโลก
Finding ‘Ohana (2021) ผจญภัยใจอะโลฮา