Greta คืองานคัมแบคอีกชิ้นของ นีล จอร์แดน ผู้กำกับหนังทริลเลอร์ผู้มีงานหลากหลายแนว โดยหนังของเขามักมีจุดเด่นที่การพูดถึงความสัมพันธ์อันไม่ปกติ ทั้งเหล่าแวมไพร์และมนุษย์ใน Byzantium (2012) และ Interview with the Vampire (1994) หรือ ความสัมพันธ์ระหว่างกบฏแบ่งแยกดินแดนไอร์แลนด์กับทหารอังกฤษในงานสร้างชื่ออย่าง The Crying Game (1992) และกับ Greta สิ่งที่ทำให้หนังมีความพิเศษคงหนีไม่พ้น ความสัมพันธ์ประหนึ่งมารดา ระหว่างฟรานซีสและเกรต้า ที่หนังให้แต่ละฝ่ายสูญเสียคนที่ตัวเองรักจนกลายเป็นส่วนเติมเต็มกันและกัน จนกระทั่งความสัมพันธ์เริ่มเป็นพิษเมื่ออีกฝ่ายคิดตีตัวออกห่าง ซึ่งจุดนี้เองที่หนังเริ่มเล่นกับความไว้วางใจของคนดูด้วยการให้เห็นความสัมพันธ์อันอบอุ่นในทีแรก ก่อนจะเริ่มใส่สิ่งผิดปกติเข้ามาเรื่อยๆเพื่อให้เราได้ลุ้นและขบคิดปริศนาต่างๆไปกับฟรานซีสได้แบบใจเต้นระส่ำ ไม่อาจวางใจภาพแต่ละเฟรมที่อยู่บนจอได้เลย
สิ่งที่ถือเป็นของขวัญสำหรับ นีล จอร์แดน ในงานกำกับชิ้นนี้หนีไม่พ้น อิซาเบล อูแปร์ ดาราสาวใหญ่ชาวฝรั่งเศสนามอุโฆษที่มาเติมความผวาให้กับ เกรต้า ที่สำคัญเธอทำให้ตัวละครมีความเป็นมนุษย์ได้ แม้หนังจะทรีตเธอเป็นสัตว์ประหลาดอยู่หลายช่วง แต่ด้วยความแม่นยำในการกำหนดจังหวะในการแสดง เธอก็ให้มิติกับหนังได้อย่างเหลือเชื่อทั้งอบอุ่นและชวนผวาแบบแค่ขยับหนังหัวคนดูก็หนาวแล้ว หรือกระทั่งซีนคุกคามก็ยังน่าเห็นใจจนเกิดเสน่ห์เฉพาะตัวให้หนัง ส่วน โคลอี เกรตซ์ มอเรตซ์ อาจจะได้คาแรกเตอร์ที่ดูคลีเช่ ซ้ำซากไปนิด แต่ด้วยเสน่ห์ที่สั่งสมมาและการกำกับก็ยังทำให้คนดูระทึกแบบหัวใจเต้นผิดจังหวะได้แทบทั้งเรื่องอยู่ดี
กระนั้นหนังก็ยังมีจุดน่าติติงอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะการพยายามเติมปมนั่นนี่ โดยเฉพาะการสืบสวนสอบสวนของ ฟรานซีส ที่โผล่มาช่วงสั้นๆแถมไม่มีผลกับเรื่องแต่อย่างใด หลังตำรวจบอกว่า ใช้เวลานานนะกว่าจะขอหมายศาลได้ 555 หรือ กระทั่งการทำลายคาแรกเตอร์นิ่งๆสะพรึงๆ ด้วยการให้เกรต้าอาละวาดในร้านอาหารที่ฟรานซีสทำงานเหมือนกลัวว่าหนังจะนิ่งเกินไป จนกลายเป็นการเร้าอารมณ์โฉ่งฉ่างไม่มีรสนิยมเอาเสียเลย มิหนำซ้ำยังอุตส่าห์เพิ่มปมเรื่องพ่อของฟรานซีส โดยแทบไม่มีผลอะไรกับเรื่องเลยอีกต่างหาก ทั้งที่ความจริงหากหนังเล่นกับความสัมพันธ์ระหว่าง เกรต้า กับ ฟรานซีส ดีๆก็เพียงพอแล้วที่หนังจะออกมาลุ่มลึกชวนคิด ชวนตีความให้สนุกสมอง ซ้ำร้ายหนังยังปูความสัมพันธ์ระหว่าง ฟรานซีส และ เอริกา ที่รับบทโดย ไมกา มอนโร จาก It Follows ไม่มากพอให้บทสรุปมีน้ำหนักน่าเชื่อถืออย่างที่หนังเล่าไปอย่างน่าเสียดาย