ปีนี้มีหนังที่เตรียมเข้าโรงต้องเปลี่ยนแผนไปลงสตรีมมิงมากเป็นพิเศษ ซึ่งหนึ่งในผลงานที่ละเมียดละไมและควรค่าแก่การเสียเวลาดูที่สุดสำหรับโค้งสุดท้ายของปี 2020 นี้ สำหรับเราคือโรดมูฟวีที่เล่นประเด็นครอบครัวและความหลากหลายทางเพศได้กินใจมาก ๆ อย่าง Uncle Frank โดยเล่าเรื่องราวของลุงหลานผู้แปลกแยกจากคนอื่น ๆ ในครอบครัวอเมริกันอนุรักษนิยมทางตอนใต้ช่วงยุค 70s
เรื่องนี้ พอล เบตตานีย์ หรือ วิชัน แห่งจักรวาลมาร์เวล รับบทเป็น ลุงแฟรงก์ ลูกชายคนโตของครอบครัวที่ผู้เป็นพ่อดูจะไม่สนใจไยดีเขานัก แต่ความละเลียดอ่อนในนิสัยใจคอทำให้เขากลายเป็นญาติคนโปรดของหลานสาวที่ฉลาดมั่นใจ ไม่เหมือนหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกัน ซึ่งบทหลานสาวก็ได้ โซเฟีย ลิลลิส จาก It และ It Chapter Two มาเล่นได้อย่างน่าเชื่อ
เมื่อคุณหลานเข้ามหาวิทยาลัยและเริ่มเรียนรู้โลก เธอพบว่าคุณลุงคนโปรดไม่ได้คบหากับผู้หญิงอย่างที่พยายามบอกกับครอบครัวมาตลอด ทำให้เธอได้เรียนรู้ว่าความรักในโลกนี้ไม่ได้มีแค่คู่ชายหญิง รวมถึงได้ทำความรู้จักกับแฟนของคุณลุงที่เป็นคนสนุกสนานและดีใจกับเธอเอามาก ๆ ด้วย เกิดเป็นไดนามิกครอบครัวทางเลือกที่มีเสน่ห์ทีเดียว
ปมใหญ่ของเรื่องอยู่ที่การเสียชีวิตของหัวหน้าครอบครัวที่ทุกคนเกรงใจมาตลอด นั่นก็คือ พ่อของลุงแฟรงก์ หรือก็คือปู่ของหลานสาวคนนี้ เธอรู้ว่าการกลับไปเผชิญหน้าครอบครัวที่มองลุงของเธอเป็น ‘คนอื่น’ หรือแม้แต่ ‘คนบาป’ นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และการให้กำลังใจซัพพอร์ตหัวใจกันและกันเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่งในชีวิตคนทุกคน
นอกจากคู่ลุงหลาน เบตตานีย์ – ลิลลิส แล้ว นักแสดงหลักอีกคนที่เราประทับใจมาก ๆ คือ ปีเตอร์ แมกดิสซี ที่รับบทคนรักแสนซัพพอร์ตทีฟได้ละมุนดีแท้ ยิ่งได้ผู้กำกับ อลัน บอลล์ ซึ่งเคยสร้างผลงานเริ่ด ๆ อย่างการเขียนบทหนัง American Beauty รวมถึงสร้างซีรีส์ Six Feet Under และ True Blood ก็แทบจะการันตีคุณภาพได้อยู่แล้ว
ที่เราอยากให้เครดิตเป็นพิเศษคือการกำกับภาพของ คาลิด โมห์ทาเซบ ที่จับความย้อนยุค ประเด็นครอบครัว และไดนามิกความสัมพันธ์ตัวละครที่ซับซ้อน มาบอกเล่าเป็นภาพได้สวยงามมาก ๆ แล้วก็เป็นเรื่องน่าเสียดายที่ภาพสเกลนี้ไม่มีโอกาสได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์
สิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ Uncle Frank คือมันบอกคนดูว่าการกล้าที่จะเป็นตัวเองมันเท่ที่สุดแล้ว และความรักก็ไม่ใช่สิ่งที่จะจำกัดรูปแบบได้ว่าควรเป็นอย่างไร หรือเป็นตามที่ใครบอกมา โดยรวมแล้วชอบมาก ๆ ดีต่อใจมาก ๆ และหวังว่ามันน่าจะช่วยเยียวยาหัวใจชาวซอยมิลค์ได้บ้างไม่มากก็น้อย