The Warriors Gate เป็นเรื่องราวของแจ็ค บรอนด์สัน (Uriah Shelton) เด็กหนุ่มติดเกมส์ผู้หนึ่ง แล้วในวันหนึ่ง เรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเถ้าแก่ร้านมิสเตอร์จาง (Henry Mah)ที่แจ็คทำงานอยู่ ได้มอบถังวิเศษที่ตกทอดกันมาในตระกูลให้แก่แจ็คและถังวิเศษนี้เองที่นำแจ็คทะลุมิติเข้าไปสู่จีนยุคโบราณและต้องกอบกู้อาณาจักรจากผู้นำชนเผ่าจอมโฉด (Dave Bautista) รวมถึงช่วยเหลือเจ้าหญิงซูหลิน (Ni Ni) ให้รอดพ้นจากเงื้อมมือของเหล่าร้ายและทำให้เธอได้ขึ้นเป็นจักรพรรดินีเพื่อครองดินแดนนี้อย่างสงบสุข ซึ่งระหว่างที่แจ็คเดินทาง ก็จะมีคู่หูองค์รักษ์ผู้เคร่งขรึม จ้าว (Mark Chao) คอยเคียงข้างและผู้วิเศษ (Francis Ng) ที่จะมาคอยช่วยเหลือแจ็คในยามคับขัน
The Warriors Gate เป็นหนังแอ็คชัน-แฟนตาซีที่ผสมผสานเอกลักษณ์ระหว่างเอเชียกับยุโรป คือ สไตล์พล็อตเรื่อง-เนื้อเรื่องแบบจีน แต่ดำเนินเรื่องแบบฝรั่ง คล้ายอาหารจีนที่ใช้เชฟฝรั่งมือดีปรุง ทำให้มีรสชาติกินง่าย ไม่แปลกแยกจากอาหารอื่นอย่างที่เคยเป็นมา ดังนั้นภายในหนังเรื่องนี้ เราจะไม่สังเกตเห็นบรรยากาศความเนือยของหนังเลย (ซึ่งถ้าเป็นหนังจีนแท้สไตล์นี้ ส่วนใหญ่ก็มักจะเนือยอยู่เสมอ) การดำเนินเรื่องกระชับ ลูกเล่นการเล่าเรื่องฉับไวตรงประเด็น สร้างสรรค์ เร้าอารมณ์ให้น่าติดตาม ไม่เหลือเค้าสไตล์การดำเนินเรื่องแบบจีนหลงเหลืออยู่เลย ทำให้หนังต่อเนื่องสนุกไม่มีเบื่อ
ภาพ CG หนังสวยงาม ฉากต่อสู้เนียนตา มันส์บู๊แบบหนังจีนกำลังภายใน ส่วนเรื่อง Location ถ่ายทำในประเทศจีนก็ถือว่างดงามมาก หนังพยายามจะทำให้เราเห็นทิวทัศน์ความยิ่งใหญ่ของประเทศจีนที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูง เช่น เทือกเขาสูงซับซ้อนสลับตัดกันไปมา ทะเลสาบอันกว้างใหญ่ ป่าไม้อันอุดมสมบูรณ์และป่าไผ่อันเป็นเอกลักษณ์ของประเทศจีน รวมถึงพระราชวังแบบจีน-ชุดแต่งกายแบบจีน เรียกได้ว่า Production ทำได้สวยงาม เนี้ยบ
สำหรับเนื้อเรื่อง The Warriors Gate เป็นหนังที่มีเนื้อเรื่องธรรมดา เป็นไปตามสูตรสำเร็จ ไม่มีอะไรมากมายนอกไปจากการผจญภัย เจออุปสรรคต่างๆ คล้ายๆกับเวลาเราเล่นเกมส์ผจญภัยข้ามป่า ข้ามเขา ข้าวแม่น้ำยาวไปจนถึงรังบอสใหญ่และบู๊กับบอสใหญ่ในฉากสุดท้าย จุดไคล์แมกซ์ของหนังก็ไม่เกินความคาดหมายมากมายอะไร ที่เป็นไฮไลต์ของหนังเรื่องนี้จริงๆ คือ มุกตลกที่แทรกเข้ามาถูกที่ถูกเวลา ลงตัว ทำให้คนดูหัวเราะท้องแข็งได้ทั้งเรื่อง (ตอนแรกผมดู Trailer ก็ไม่คิดจริงๆว่ามันจะเป็นหนังตลกขนาดนี้ 555) ส่งผลให้หนังน่าติดตามตลอดทั้งเรื่อง ไม่มีส่วนไหนที่น่าเบื่อเลย (ทั้งๆที่ผมนึกว่า ผมจะต้องหลับเป็นแน่แท้)