ในปี 1950ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนได้สถาปนาขึ้นมาใหม่ กลุ่มปฏิวัติพร้อมจะเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ รัฐบาลจึงก่อตั้งหน่วยราชการลับ “701” ขึ้นมาเพื่อตรวจสอบ และดำเนินการถอดรหัสข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทางช่องโทรเลขและวิทยุ โดยเฉพาะกับพรรคก๊กมินตั๋งจากจีนไต้หวัน แต่อยู่มาวันหนึ่งช่องทางการติดต่อของทหารฝ่ายศัตรูกว่า 120 ช่องได้หายและปิดตัวลงไปอย่างไรร่องรอย เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดกับหน่วย “701” และประชาชนอาจตกอยู่ในภยันตรายในทันที ภายหลัง ฉางซื่อหนิง หญิงสาวที่ทำงานให้กับกลุ่ม “701” จึงจำเป็นที่ต้องไปตามหาบุคคลที่มาความสามารถทางโสตประสาทมากพอที่จะสามารถดักฟังคลื่นวิทยุให้กลับมาอีกครั้ง ฉางซื่อหนิง จึงได้พบกับ เหอปิง เขาเป็นนักซ่อมเปียโนที่มีทักษะการฟังเป็นเลิศ ด้วยความสามารถที่โดดเด่นของเขาจึงทำให้ฝ่ายศัตรูจำเป็นต้องวางแผนกลยุทธ์ใหม่และการต่อสู้ผ่านการดักฟังและเฉือนคมของทั้งของทั้งสองฝ่ายจึงเกิดขึ้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างมาจากนิยายชื่อดังที่ชื่อว่า “Plot Against” ประพันธ์โดย Mai Jia เรื่องนี้เป็นหนังสือยอดฮิตติดอันดับในปี 2005 เหตุผลที่ Alan Mak และ Felix Chong หันปลายปากกามาจับที่ตัวเรื่องนี้คงหนีไม่พ้นพลอตเรื่องที่ตื่นเต้นและน่าค้นหาของสิ่งที่ตัวเองต้องทำนั่นคือการลุ้นระทึก ของการสื่อสารผ่านทางรหัสมอสและโทรเลข ความสามารถในการเล่าเรื่องแนวนี้ได้เป็นที่ประจักษ์ต่อผู้คนแล้วในเรื่อง Infernal Affair ซึ่งผู้กำกับทั้งสองคนนี้เป็นหัวหอกหลักในการเขียนบทของเรื่องนั้นอีกด้วย ไม่เป็นเรื่องแปลกที่ ทั้งคู่อยากจะจับงานแนวเดิมที่สร้างชื่อให้ตนเองอีกครั้ง
เรื่องราวแม้จะเป็นเรื่องที่แต่งขึ้นแต่องค์ประกอบโดยรวมของประวัติศาสตร์ยังคงเหมือนเดิม สำหรับคนที่ติดตามประวัติศาสตร์ชาติจีน เรื่องนี้น่าจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ว่าด้วยเรื่องการเมืองและประวัติศาสตร์ที่น่าติดตาม เพราะมีการกล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลและการปฏิวัติของฝ่ายพรรคก๊กมินตั๋งของฝั่งไต้หวัน ความรุนแรง และความตรึงเครียดของประวัติศาสตร์ชาติจีนอาจจะทำให้คนที่ศึกษาในเรื่องนี้อยู่แล้วเกิดความสนใจและร่วมค้นหาไปกับเรื่องนี้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก
นอกจากความโดดเด่นในด้านการสื่อสารที่ใช้รหัสมอสเป็นสื่อกลางที่แสดงถึงหนังที่เน้นความลุ้นระทึกแล้วยังมีเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับความรักอีกด้วย นับว่าเป็นเรื่องใหม่ที่สองนักเขียนที่เน้นหนังอย่างแก็งอันธพาลและมาเฟียจะมาจับเรื่องความรักสามเศร้าในเรื่องนี้ด้วย ในช่วงองค์ที่สองของหนัง Alan Mak เลือกที่จะจับเรื่องความรักควบคู่ไปกับความตื่นเต้นของหนัง ในเรื่อง ฉางเสว่หนิง และเหอปิงต่างฝ่ายต่างมีแอบมีใจให้กันแต่ด้วยความที่ทั้งคู่มีอาชีพการงานที่ต้องใกล้เคียงกัน ความรักของทั้งคู่ก็แทบจะเป็นไปไม่ได้ นับว่าเป็นความกล้าที่ผู้กำกับหยิบยกเรื่องราวที่ตนไม่ถนัดมาเล่า แต่ผลลัพธ์ที่ออกมากลับทำให้ทั้งคู่เป็นที่จับตามองว่ามีความสามารถหลากหลายในการเขียนบทและกำกับ