What's happening?

Video Sources 442 Views Report Error

  • The Fighter (2011) เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย
The Fighter (2011) เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย

The Fighter (2011) เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย

Your rating: 0
8 1 vote

Synopsis

The Fighter (2010) : 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย , Directed by David O. Russell
.
สร้างจากเรื่องจริงของนักชกรุ่น Light Welterweight “ไอริช” Micky Ward (รับบทโดย Mark Wahlberg) ผู้ชนะน้อยครั้งในแต่ละสังเวียน แม้แต่ในชีวิตจริงก็ตามที เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด และพยายามฮึดสู้ทุกครั้ง โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ Dicky Eklund (รับบทโดย Christian Bale) เป็นเทรนเนอร์ให้ . . ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ (รับบทโดย Melissa Leo) บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการอยู่เสมอ แต่แล้วเมื่อเขาต้องพบกับ Charlene Fleming (รับบทโดย Amy Adams) ที่ต่อมากลายเป็นแฟนสาว และพูดถึงสิ่งฉุดรั้งชีวิตเขาอยู่ เธอพยายามให้เขาเดินออกมาและใช้ชีวิตด้วยตนเอง เพราะมันเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนนี้ !!
.
ผลงานกำกับของ David O. Russell ผู้กำกับเลือกทำผลงาน ที่ตลอดชีวิต 56 ปีของเขา นั่งแท่นเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวมาแล้วเพียง 7 เรื่องเท่านั้น The Fighter ถือเป็นผลงานก่อนหน้า Silver Linings Playbook และ American Hustle ที่ส่งประกวดขึ้นสังเวียนท้าชิงมาแล้วมากมาย หรือกระทั่งผลงานก่อนหน้า The Fighter อย่าง Three Kings หรือ Flirting with Disaster ก็ต่างเป็นภาพยนตร์น้ำดีด้วยกันทั้งสิ้น และสำหรับ The Fighter นั้น ก็ส่งเข้าประกวดจนกวาดรางวัลสมทบชาย , สมทบหญิง จากเวทีออสการ์และลูกโลกทองคำมาแล้วมากมาย
.
The Fighter เป็นอีกหนึ่งผลงานที่ทำให้ผมทึ่งกับการแสดงของ Christian Bale อย่างเหลือล้น . . อีกทั้ง Amy Adams ก็ชอบเธอในบทบาทที่แซ่บได้ใจจริงๆ เปลี่ยนหูเปลี่ยนตาจากผลงานที่เคยดูอย่าง Enchanted หรือ Big Eyes มากล้าท้ากล้าโชว์ทุกสัดส่วนใน American Hustle หรือ The Fighter อย่างน่านับถือ . . ด้านการนำเสนอต้องบอกว่าผมไม่ค่อยได้เห็นแบบนี้มากนัก มันเป็นเทคนิคที่นำพาอารมณ์ของเราย้อนไปสมัย ณ เหตุการณ์นั้นจริงๆ ส่วนหนึ่งเลยคือการที่บทของนักแสดงเล่นกันแบบ Real หรือเหมือนจะไม่มีการท่องบทมาก่อนอย่างไงอย่างงั้น รวมทั้งเรื่องของมุมกล้องและการลำดับภาพต่างๆ ก็เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกว่ากำลังติดตามดูชีวิตพวกเขา ประหนึ่งแทบหายใจรดต้นคอเลยทีเดียว ลักษณะการนำเสนอแบบนี้จึงมีเสน่ห์และแปลกตากว่าภาพยนตร์เรื่องอื่นๆทั่วไป ที่ใช้การถ่ายทำอีกแบบหนึ่ง และทำให้เราเห็นชัดๆว่า เนี๊ยคือหนังนะ คือการแสดง ต่างจาก The Fighter ที่เปรียบเสมือนว่าเรากำลังย้อนเวลาไปอยู่ ณ ที่แห่งนั้นจริงๆ
.
ซึ่งโดยรวมแล้วผมชอบภาพยนตร์เรื่องนี้มาก ในหลายๆฉากนี้สามารถมองในมุมตลกได้หมด แม้กระทั่งฉากดราม่า แต่มันก็ยังดึงอารมณ์นำพากลับมาให้ดราม่าอย่างจริงๆจังๆ ไม่ตลกจนเลยเถิดไปไหนได้ แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมฉากการต่อสู้ ผมกลับไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับมัน อาจเพราะมันตั้งใจทำให้ดูเป็นสารคดี ที่ใช้เทคนิคการนำเสนอแบบการดูนักมวยขึ้นชกบนเวทีผ่านจอโทรศัพท์สมัยก่อน ซึ้งเมือคิดในมุมนี้ก็ถือว่าตอบโจทย์และประความสำเร็จแหละน่ะ

Director

Director

Cast

Similar titles

The Nanny (2018) เดอะแนนนี่
The Lady (2011) อองซานซูจี ผู้หญิงท้าอำนาจ
The Wild Bunch (1969) คนเดนคน
Battle of Wits (2006) มหาบุรุษกู้แผ่นดิน
Beats (2019) บีตส์
Takers (2010) พลิกแผนปล้นระห่ำนรก
Gully (2019)
The Grudge 2 (2006) โคตรผีดุ 2
Chemical Hearts (2020) เพราะเราเคมีตรงกัน
Lost Bullet (2020) เเรงทะลุกระสุน
Cast Away (2000) คนหลุดโลก
Glass (2019) กลาส คนเหนือมนุษย์