ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าหนังเรื่องนี้จะมีภาคต่อกับ Taken ที่หลังจากภาคแรกกลายเป็นหนังฮิตถล่มทะลายที่อเมริกา ที่ทำเงินไปสูงกว่า 145 ล้านเหรียญ และทำเงินทั่วโลกไปสูงถึง 200 กว่าล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียง 25 ล้านเหรียญเท่านั้น ว่าแล้วภาคต่อนี้ค่าย ฟอกซ์ จึงขอลงมาคุมเองโดยดับเบิ้ลทุกอย่าง
เลียม นีสัน กลับมารับบท ไบรอัน มิลส์ เจ้าหน้าที่ CIA ผู้ปลดเกษียณที่มีความสามารถเฉพาะตัวหลายด้าน หลังจากที่เขาทำทุกวิถีทางเพื่อช่วย คิม ลูกสาวของเขาจากการลักพาตัวของพวกอัลบาเนียเมื่อหลายปีก่อน แต่แล้วเมื่อพ่อของเหยื่อลักพาตัวคนหนึ่งสาบานว่าจะล้างแค้นพวกเขาที่ไปฆ่าลูกชายของตน โดยการเอาตัวไบรอันกับภรรยาไปเป็นตัวประกันระหว่างช่วงพักร้อนที่อิสตันบูล ไบรอันจึงขอความช่วยเหลือจาก คิม ลูกสาวของตน ให้ช่วยพาพวกเขาหนีไปจากพวกโจร โดยที่เขาจะสอนการใช้เทคนิคพิเศษชั้นสูงทางการทหารเพื่อปกป้องครอบครัวและล่าหัวโจรลักพาตัว ที่ทำให้ไม่ว่าจะโจรหน้าไหนก็ต้องเกรงกลัวเขาคนนี่
หลังจากในภาคแรก Taken นั่นได้แจ้งเกิดให้กับผู้กำกับ ปิแอล โมเรล โดยมี ลุค เบซอง เจ้าพ่อหนังแอ็คชั่นคอยหนุนหลังให้ ว่าแล้วดูเหมือนว่าในภาคนี้ ลุค เบซอง จะขอพยายามปั้นเด็กปั้นอีกรายที่ล้มเหลวมาแล้วกับหนัง 2 เรื่องก่อน ให้มายืนด้วยตัวเองอีกครั้ง กับ โอลิเวียร์ เมกาตัน ผู้กำกับจาก Transporters 3 และ Colombiana ที่ทั้ง 2 เรื่องที่ว่านั่นต่างก็โดนสับเละ และ ค่อนข้างล้มเหลวด้านรายได้มากพอสมควร เพราะฉะนั้น Taken 2 จึงเปรียบเสมือนหนังที่ผู้กำกับจะพยายามสร้างเพื่อให้กู้หน้าตัวเองให้จงได้ โดยส่วนตัวผมก็ต้องขอยอมรับว่าค่อนข้างเป็นแฟนพันธุ์แท้ภาคแรกมากพอสมควร เพราะเนื่องด้วยฉากแอ็คชั่นไล่ล่าสุดมันส์ และด้านของตัวคาแรกเตอร์ พ่อเก่งเว่อร์ ในหนังก็ออกมาถูกใจคนดูซะขนาดนี้ เพราะฉะนั้นถ้าหนังกล้ามีภาคต่อออกมาอีก ผมก็ไม่พ้นที่จะไปดูแน่นอน
ซึ่งก่อนเข้าไปดู Taken 2 ผมต้องยอมรับว่าค่อนข้างหวั่นๆในตัวผู้กำกับ โอลิเวียร์ เมกาตัน ในด้านของฉากแอ็คชั่นมากพอสมควร เพราะทั้งเรื่อง คนส่งของ และ สาวล้างแค้น ฉากแอ็คชั่นก็ต่างไม่ค่อยเข้าตาผมเลยสักนิด แต่ก็ดูเหมือนว่าใน Taken 2 นี่ผู้กำกับจะพัฒนาด้านของงานแอ็คชั่นมากพอสมควร เพราะต้องขอยอมรับเลยว่าด้านของฉากแอ็คชั่นใน Taken 2 นั้นผู้กำกับสามารถเนรมิตรออกมาได้มันส์ไม่แพ้ภาคแรก แถมด้วยการที่ผู้กำกับใส่ฉากแอ็คชั่นไล่ล่าเข้ามาแบบ Non-Stop ไม่มีหยุดย่อนทั้งเรื่อง มันจึงทำให้ Taken 2 นั่นเป็นหนังที่ยังคงเส้นคงวาด้านของความมันส์ และ คาแรกเตอร์เท่ๆของ ไบรอัน มิลล์ ได้อยู่ครบ
แต่ก็แน่นอนหละครับ การที่ผู้กำกับใส่ฉาก แอ็คชั่น Non-Stop เข้ามาเสียขนาดนี้ สิ่งที่ผู้กำกับต้องเสียไปนั่นคือด้านของ ตัวบท ที่พูดง่ายๆเลยว่าด้านตัวบทใน Taken 2 นั่นค่อนข้างทำออกมาสุกเอาเผากินพอสมควร เนื่องจากมีการเขียนบทที่ขี้เกียจ ตามสูตร หรือเรียกง่ายๆคือ ดำเนินเรื่องตามภาคแรกแทบจะทุกอย่าง เพียงแค่สลับที่ให้ด้านของ ลูก มาช่วย พ่อ เท่านั้น แถมดูเหมือนว่าเหตุผลของการกลับมาทำภาคต่อนี่ก็ยังจะทำออกมาได้ไม่ดีพอเสียด้วย กับการที่ตัวหนังเล่นมุกง่ายๆ ให้คนในครอบครัวมาแก้แค้นให้กับตัวร้ายภาคที่แล้ว ที่ยิ่งดูเข้าไปเท่าไหร่นั่นก็ยิ่งดูเหมือนหนังจีนในสมัยก่อน ที่สร้างออกมาหลายๆภาค แต่ว่าตัวแกนเรื่องนั้นมีเพียงแค่ ลูกแก้แค้นพ่อ พ่อแก้แค้นลูก ปู่แก้แค้นยาย ยายแก้แค้นหลาน หลายแก้แค้นญาติห่างๆ ญาติห่างๆแก้แค้นแฟน บรรยายเท่าไหร่ก็ไม่หมด
แถมดูเหมือนว่าตอนจบใน Taken 2 ก็จะทิ้งปมความน่าสงสัยให้กับคนดูอีกมากมาย และดีไม่ดีในอีกไม่ช้านี่เราอาจจะเห็น Taken 3 ที่ยิ่งทำให้หนังแย่ลงไปอีกก็เป็นได้ครับ แต่ถ้าหากมองตามเนื้อผ้าธรรมดา สำหรับใครที่ช่วงนี้ต้องการหนังมันส์ๆ ดูเพลินๆ เต็มไปด้วยฉากไล่ล่า หนังเรื่อง Taken 2 นี่ก็ถือว่าเป็นหนังที่น่าจะตอบสนองคุณได้แน่นอน เพราะถึงแม้คุณจะไม่เคยดูภาคแรกมาก่อน ตัวหนังก็มี แฟลชแบ็ค และเรื่องราวที่สืบเนื่องไปถึงภาคแรกให้คุณเข้าใจได้อย่างไม่ยาก แต่ถ้าหากใครที่เคยชื่นชอบในภาคแรก และ เป็นแฟนพันธุ์แท้มานั่น ในภาคนี้อาจจะค่อนข้างผิดหวังไปสักนิด เพราะนอกจากความมันส์ที่ทำออกมาพอดู
หนังกลับไม่มีอะไรใหม่ๆมาเสนอคนดู แถมยังไม่สามารถทำให้คนดูรู้สึกแค้นตัวร้ายของเรื่องได้ดีเท่ากับภาคแรกด้วยซ้ำ และอีกหลายๆเหตุผลในการกลับมาทำภาคต่อนี้ก็ดันไม่เข้าท่าเอาเสียเลย แต่ถึงจะบ่นมาถึงขนาดนี้แล้วก็ตาม ใครที่เคยดูภาคแรกแล้วก็ต้องดูภาคนี่อย่างแน่นอน เพื่อให้มันครบๆไป (จริงไหม?)