ROMA ฉายภาพชีวิตของผู้หญิง 2คนต่างชนชั้นแต่ร่วมชายคาเดียวกันฝ่ายแรกคือ เคลโอ (ยาลิซา อปาริชิโอ) สาวใช้ในบ้านของครอบครัวคุณหมอชนชั้นกลางที่ชีวิตของเธอผกผันหลังจากตั้งท้องกับชายหนุ่มที่หนีจากเธอไป ส่วนฝ่ายหลังคือ โซเฟีย (มารินา เดอ ทาวิรา) ภรรยาของคุณหมอที่นอกใจเธอ โดยทั้งสองชีวิตต้องดูแลเด็กๆและคุณย่าในบ้านภายใต้สถานการณ์การเมืองอันคุกรุ่นในเมืองโรมา ประเทศเม็กซิโกยุค 70
เรื่องราวของสาวใช้ และ ภรรยาของคุณหมอ ถึงแม้ว่าทั้ง 2 คนจะอยู่กันคนละชนชั้น แต่ทั้งสองกับมีเรื่องราวที่คล้ายคลึงกันอย่างไม่น่าเชื่อ
หนังสร้างโดยใช้สีโทนขาวดำ ถือว่าเป็นจุดเด่นของเรื่องนี้ก็ว่าได้ที่หนังทั้งเรื่องใช้โทนขาวดำในการนำเสนอ และการใช้โทนขาวดำนี่แหละทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้เป็นอย่างมาก หลายๆฉากนำเสนออารมณ์ของตัวละครออกมาได้เหมือนเราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของหนังเรื่องนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นอารมณ์เศร้า เสียใจ อกหักหรือโกรธ ตัวละครในหนังถ่ายทอดออกมาได้สมจริงชนิดที่เรียกว่านี่แหละคือความรู้สึกของคนที่เสียใจจริงๆ หรือโกรธจริงๆ และผมเชื่อว่าหลายคนที่ดูจะต้องหลงรักตัวละครสาวใช้อย่าง เกลโอ แน่นอน
เรื่องราวของผู้หญิงต่างชนชั้น แต่มีเรื่องราวที่เหมือนกัน หนังสร้างเรื่องราวของสาวใช้ ที่ถูกผู้ชายทำให้เธอท้องแล้วทิ้งเธอไป ทำให้เธอต้องอุ้มท้องอย่างโดดเดี่ยว ในส่วนภรรยาของหมอนั้นก็ถูกทอดทิ้งเช่นเดียวกัน และเธอต้องเลี้ยงดูลูกของเธออีก 4 คน การที่หนังจับเอาเรื่องราวของทั้ง 2 คนมาพูดถึงในลักษณะที่คล้ายกันแบบนี้ทำให้คนดูรู้สึกว่า ถึงแม้จะต่างชนชั้นกันเพียงไหนแต่สุดท้ายแล้วก็เป็นคนเหมือนกัน
หนังทำออกมาสมคำร่ำลือมากๆ ผมชอบการแสดงของตัวละครในหนังและชอบการตัดต่อของผู้กำกับมากๆ ทุกๆอย่างในหนังทำออกมาได้ลงตัวมากๆ และในฉากจบที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้ดีมากสามารถเรียกน้ำตาคนดูได้ดีเลยทีเดียว
โรม่าเป็นหนังที่คุ้มค่ากับการดู 2 ชั่วโมงมากๆ หนังทำสื่ออารมณ์ตัวละครออกมาได้ดี หลายๆฉากทำออกมาได้ดี แต่เชื่อไหมหนังเรื่องนี้มีข้อดีมากมายแต่ข้อเสียอย่างเดียวของหนังเรื่องนี้คือ ถ้าคนชอบก็จะชอบเลย แต่ถ้าคนไม่ชอบก็จะเบื่อมาก
การนำเสนอเรื่องราวในแนวทางสัจนิยมที่สามารถนำเทคนิคมารับใช้เนื้อหาได้อย่างลุ่มลึก ความงดงามของงานภาพที่แต่ละเฟรมคืองานศิลปะเคลื่อนไหวที่ต่อไปคงได้บันทึกในตำราเรียนภาพยนตร์แน่ๆ รวมถึงการแสดงอันเป็นธรรมชาติและถือว่าดีที่สุดเรื่องหนึ่งแห่งปี2018