What's happening?

Video Sources 471 Views Report Error

  • My Boss My Teacher (2006) สั่งเจ้าพ่อไปสอนหนังสือ
My Boss My Teacher (2006) สั่งเจ้าพ่อไปสอนหนังสือ

My Boss My Teacher (2006) สั่งเจ้าพ่อไปสอนหนังสือ

Your rating: 0
9 1 vote

Synopsis

ก็เป็นงานหนังภาคต่อจาก My Boss, My Hero นะครับผม เคยเข้าฉายบ้านเราด้วย และผมก็ตามไปดูในโรงเหมือนกัน ซึ่งภาคแรกก็ถือว่าสนุกสนานไม่เลวครับ แม้อะไรๆ ยังไม่ลงตัวนัก แต่ความฮาส่วนมากก็มาจากทีมพากย์พันธมิตรเรานี่แหละ

ส่วนภาคนี้ก็เป็นการต่อเนื่องเรื่องครับ หลังจาก เกดูซิก (Jeong Jun-ho) เจ้าพ่อระดับรองหัวหน้าได้เข้าเรียนจบมัธยมแล้วก็ไปต่อมหาลัย จนตอนนี้ใกล้จบแล้วครับ เรียกคณะครูด้วย พอเวลาฝึกงานมาถึงพี่ท่านก็ต้องออกโรงเข้าโรงเรียนไปสอนหนังสือ ซึ่งที่นั่นเองทำให้เขาต้องพบกับทั้งนักเรียนที่ดีและเลว อาจารย์ที่เห็นแก่เงิน แล้วก็ลับลมคมในเรื่องฉ้อฉล ตามด้วยผู้มีอิทธิพลอีกต่างหาก

ก็เอาอีกแล้วครับ คราวก่อนเกือบเรียนไม่จบก็เพราะดูซิกดันไปออกโรงลุยกับพวกชั่ว มางานนี้ก็อีกแล้วครับ เมื่อถึงจุดสุดขีด เขาก็ต้องออกโรงปกป้องคนดีอีกครั้ง

ก่อนอื่น ผมว่านะครับ ท่านจะสนุกกับหนังมากขึ้นหากดูภาคแรกมาแล้วครับ เพราะตัวละครส่วนใหญ่ก็ยกกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะดูซิกเองหรือ 2 ลูกน้องต่างขั้วอย่าง ซางดู (Jeong Woong-in) รายนี้ใส่สูท มาดดี ดูจะเก่งภาษาอังกฤษ กับไอ้กา (อันนี้ผมก็ไม่รู้เชื่อแฮะ) รายหลังนี่ผมอยากจะเรียกว่าไอ้บ้าครับ เพราะพี่แกทำอะไรให้เจ้านายกระทืบได้ตลอดตั้งแต่ภาคก่อนแล้ว มาภาคนี้ก็ยังบ้าไม่เลิกครับ จริงๆ จะหนักกว่าเก่าด้วย ยิ่งไอ้มุข “พาเข้าซอย” นั่นทั้งถ่อยทั้งบ้าจริงๆ

โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าหนังภาคนี้ฮามากเพราะได้แรงเสริมจากทีมพากย์พันธมิตรครับ มุขบ้าๆ เยอะ ขนาดตอนเงียบๆ ยังยิงมุขลงไปเลยอ้ะ ฮาไม่เว้นวรรคจริงๆ หรืออย่างตัวภรรยาของไอ้กาน่ะครับ จริงๆ เจ๊แกก็ไม่ได้ฮาอะไรมาก แต่หนังเล่นใส่มุข “กระโปรงเหี่ยน” ลงไปเท่านั้นแหละ ฮาทุกรอบทันที

ดังนั้นหากถอดสมการแล้ว ดูเฉพาะตัวหนังล้วนๆ ผมว่าภาคแรกจะลงตัวกว่ากันมากครับ

หนังเรื่องนี้ทั้งสองภาคมันโครงเรื่องที่คล้ายกันครับ และโครงที่ว่านี้คือ “หนักเนื้อหา แต่เบาความต่อเนื่อง”

ที่ว่าหนักเนื้อหานี่คือ จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นฮาเพียงอย่างเดียวนะครับ อย่างที่บอก ถ้าถอดทีมพากย์พันธมิตรออกไป เราจะพบว่าหนังมันเป็นแนวตลกร้ายไปเลยด้วยซ้ำ เพราะเนื้อหาของหนังผมบอกได้เลยครับว่าเล่นแรงมาก ในภาคแรกหนังจะเล่นกับเรื่องในโรงเรียน ทั้งครูที่ดีแต่โดนอาจารย์ใหญ่ขี้ฉ้อมาหาเรื่อง หรือนักเรียนดีๆ ที่โดนอาจารย์เล่นงาน การโกงกิน และอะไรอีกมากมาย นั่นทำให้จุดที่ผมชอบภาคแรกจริงๆ นั้น ไม่ใช่ความฮา แต่เป็นการเล่นกับความฟอนเฟะของระบบการศึกษาแบบเต็มเม็ด ไม่มีตัดทอน

และถ้าภาคแรกคือการแฉ … ในภาคนี้ หนังเรียกได้ว่าเป็นหนัง “เฉาะ” การศึกษาแบบแรงจัดกว่าภาคแรกหลายเท่าตัวนัก

หนังไม่กลัวที่จะจับประเด็นมาเล่นแบบไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมครับ ไม่ว่าจะเรื่องครูที่เห็นแก่เงิน เข้าข้างลูกศิษย์ที่มีเงิน ส่วนไอ้ลูกคนรวยบางตัวก็เจือกทำตัวชั่วร้ายแล้วชาติ แกล้งคนไปทั่ว แล้วก็ยังมาได้ครูเลวๆ หนุนหลังอีกต่างหาก

แล้วยังมีเรื่องของนักศึกษาที่ต้องขายตัวเพื่อเงิน ซึ่งเธอไม่ได้ภูมิใจเลยครับ แต่ไปๆ มาๆ ไอ้คนที่ทำก็ไม่ใช่ใคร เป็นพวกผู้บริหารรร. ที่เห็นแก่เงินนั่นแหละ

 

 

Director

Director

Cast

Similar titles

Sanctum (2011) แซงค์ทัม ดิ่ง ท้า ตาย
Thoroughbreds (2017) สวยพันธุ์เหมี้ยม
Kasane (2018) สวยสยอง
Boogeyman 1 (2005) ปลุกตำนานสัมผัสสยอง 1
Monster Hunter (2020) มอนสเตอร์ ฮันเตอร์
22 Chaser (2018) 22 นักล่า
The 2nd (2020)
Cuties (2020) คิวตี้ สาวน้อยนักเต้น
King Naresuan 4 (2011) ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ๔ ศึกนันทบุเรง
Bittersweet Brew (2016) ร้านกาแฟ…สื่อรักด้วยใจ
Deepwater Horizon (2016) ฝ่าวิบัติเพลิงนรก
Naruto The Movie 9 (2012) พลิกมิติผ่าวิถีนินจา