ก็เป็นงานหนังภาคต่อจาก My Boss, My Hero นะครับผม เคยเข้าฉายบ้านเราด้วย และผมก็ตามไปดูในโรงเหมือนกัน ซึ่งภาคแรกก็ถือว่าสนุกสนานไม่เลวครับ แม้อะไรๆ ยังไม่ลงตัวนัก แต่ความฮาส่วนมากก็มาจากทีมพากย์พันธมิตรเรานี่แหละ
ส่วนภาคนี้ก็เป็นการต่อเนื่องเรื่องครับ หลังจาก เกดูซิก (Jeong Jun-ho) เจ้าพ่อระดับรองหัวหน้าได้เข้าเรียนจบมัธยมแล้วก็ไปต่อมหาลัย จนตอนนี้ใกล้จบแล้วครับ เรียกคณะครูด้วย พอเวลาฝึกงานมาถึงพี่ท่านก็ต้องออกโรงเข้าโรงเรียนไปสอนหนังสือ ซึ่งที่นั่นเองทำให้เขาต้องพบกับทั้งนักเรียนที่ดีและเลว อาจารย์ที่เห็นแก่เงิน แล้วก็ลับลมคมในเรื่องฉ้อฉล ตามด้วยผู้มีอิทธิพลอีกต่างหาก
ก็เอาอีกแล้วครับ คราวก่อนเกือบเรียนไม่จบก็เพราะดูซิกดันไปออกโรงลุยกับพวกชั่ว มางานนี้ก็อีกแล้วครับ เมื่อถึงจุดสุดขีด เขาก็ต้องออกโรงปกป้องคนดีอีกครั้ง
ก่อนอื่น ผมว่านะครับ ท่านจะสนุกกับหนังมากขึ้นหากดูภาคแรกมาแล้วครับ เพราะตัวละครส่วนใหญ่ก็ยกกันมาทั้งนั้น ไม่ว่าจะดูซิกเองหรือ 2 ลูกน้องต่างขั้วอย่าง ซางดู (Jeong Woong-in) รายนี้ใส่สูท มาดดี ดูจะเก่งภาษาอังกฤษ กับไอ้กา (อันนี้ผมก็ไม่รู้เชื่อแฮะ) รายหลังนี่ผมอยากจะเรียกว่าไอ้บ้าครับ เพราะพี่แกทำอะไรให้เจ้านายกระทืบได้ตลอดตั้งแต่ภาคก่อนแล้ว มาภาคนี้ก็ยังบ้าไม่เลิกครับ จริงๆ จะหนักกว่าเก่าด้วย ยิ่งไอ้มุข “พาเข้าซอย” นั่นทั้งถ่อยทั้งบ้าจริงๆ
โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่าหนังภาคนี้ฮามากเพราะได้แรงเสริมจากทีมพากย์พันธมิตรครับ มุขบ้าๆ เยอะ ขนาดตอนเงียบๆ ยังยิงมุขลงไปเลยอ้ะ ฮาไม่เว้นวรรคจริงๆ หรืออย่างตัวภรรยาของไอ้กาน่ะครับ จริงๆ เจ๊แกก็ไม่ได้ฮาอะไรมาก แต่หนังเล่นใส่มุข “กระโปรงเหี่ยน” ลงไปเท่านั้นแหละ ฮาทุกรอบทันที
ดังนั้นหากถอดสมการแล้ว ดูเฉพาะตัวหนังล้วนๆ ผมว่าภาคแรกจะลงตัวกว่ากันมากครับ
หนังเรื่องนี้ทั้งสองภาคมันโครงเรื่องที่คล้ายกันครับ และโครงที่ว่านี้คือ “หนักเนื้อหา แต่เบาความต่อเนื่อง”
ที่ว่าหนักเนื้อหานี่คือ จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้ไม่ได้เน้นฮาเพียงอย่างเดียวนะครับ อย่างที่บอก ถ้าถอดทีมพากย์พันธมิตรออกไป เราจะพบว่าหนังมันเป็นแนวตลกร้ายไปเลยด้วยซ้ำ เพราะเนื้อหาของหนังผมบอกได้เลยครับว่าเล่นแรงมาก ในภาคแรกหนังจะเล่นกับเรื่องในโรงเรียน ทั้งครูที่ดีแต่โดนอาจารย์ใหญ่ขี้ฉ้อมาหาเรื่อง หรือนักเรียนดีๆ ที่โดนอาจารย์เล่นงาน การโกงกิน และอะไรอีกมากมาย นั่นทำให้จุดที่ผมชอบภาคแรกจริงๆ นั้น ไม่ใช่ความฮา แต่เป็นการเล่นกับความฟอนเฟะของระบบการศึกษาแบบเต็มเม็ด ไม่มีตัดทอน
และถ้าภาคแรกคือการแฉ … ในภาคนี้ หนังเรียกได้ว่าเป็นหนัง “เฉาะ” การศึกษาแบบแรงจัดกว่าภาคแรกหลายเท่าตัวนัก
หนังไม่กลัวที่จะจับประเด็นมาเล่นแบบไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหมครับ ไม่ว่าจะเรื่องครูที่เห็นแก่เงิน เข้าข้างลูกศิษย์ที่มีเงิน ส่วนไอ้ลูกคนรวยบางตัวก็เจือกทำตัวชั่วร้ายแล้วชาติ แกล้งคนไปทั่ว แล้วก็ยังมาได้ครูเลวๆ หนุนหลังอีกต่างหาก
แล้วยังมีเรื่องของนักศึกษาที่ต้องขายตัวเพื่อเงิน ซึ่งเธอไม่ได้ภูมิใจเลยครับ แต่ไปๆ มาๆ ไอ้คนที่ทำก็ไม่ใช่ใคร เป็นพวกผู้บริหารรร. ที่เห็นแก่เงินนั่นแหละ