หยิบหนังเฮียเฉินหลงเรื่อง Mr. Nice Guy มาเสพโดยหวังความบันเทิง ผลที่ได้ก็นับว่าตรงตามที่หวังครับ
ในเรื่องเฮียเฉินรับบท แจ็คกี้ พิธีกรรายการทำอาหารที่จับพลัดจับผลูไปมีเรื่องกับเจ้าพ่อประจำถิ่นนามว่า จิอันคาร์โล (Richard Norton ที่เคยรับบทตัวร้ายให้เฮียเฉินมาแล้วใน City Hunter) ที่ทำสารพัดสิ่งผิดกฎหมายและหมายจะปกปิดความผิด แจ็คกี้เลยโดนพวกเจ้าพ่อตามล่าครับ แต่ก็คงพอเดาได้น่ะครับว่าสุดท้ายแล้วฝ่ายไหนกันแน่ที่จะอ่วมอรทัย
หนังยาวราว 90 นาที แต่กว่าครึ่งนี่กระหน่ำฉากบู๊ล้วนๆ ครับ ซึ่งว่ากันถึงฉากบู๊ก็สาใจดีครับ เสี่ยงตายเพียบ ครีเอทเพียบ ส่วนมากดูแล้วมันส์ครับ ไม่ว่าจะตอนล่ากันในเมือง ตอนไปตีกันในที่ก่อสร้าง มีฉากหวาดเสียวอย่างเฮียเฉินพุ่งตัวผ่านคมเลื่อยไฟฟ้า ฉากเสี่ยงตายโดนรถทับ แต่ที่สะใจสุดๆ ต้องยกให้ฉากถล่มบ้านเจ้าพ่อตอนท้ายที่ดูลงทุนอย่างแรง
ด้านพล็อตก็ไม่ต้องคิดมากครับ มีบ้างบางๆ ให้พอมีเนื้อหา แต่หลักๆ จะไปหนักบู๊ซึ่งก็เพลินดีครับ หนังไปถ่ายทำกันที่ออสเตรเลีย ก็ได้โลเกชั่นแปลกตาไปอีกแบบ และคนกำกับเรื่องนี้ก็คือพี่หมูหินหงจินเป่า เลยไม่แปลกครับที่จะจัดหนักฉากบู๊ขนาดนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือเป็นงานกำกับแบบเต็มตัวเรื่องสุดท้ายของเฮียหงด้วยครับ (หลังจากนี้ก็มีแค่ร่วมกำกับใน หวงเฟยหงพิชิตตะวันตก)
หยิบหนังเฮียเฉินหลงเรื่อง Mr. Nice Guy มาเสพโดยหวังความบันเทิง ผลที่ได้ก็นับว่าตรงตามที่หวังครับ
ในเรื่องเฮียเฉินรับบท แจ็คกี้ พิธีกรรายการทำอาหารที่จับพลัดจับผลูไปมีเรื่องกับเจ้าพ่อประจำถิ่นนามว่า จิอันคาร์โล (Richard Norton ที่เคยรับบทตัวร้ายให้เฮียเฉินมาแล้วใน City Hunter) ที่ทำสารพัดสิ่งผิดกฎหมายและหมายจะปกปิดความผิด แจ็คกี้เลยโดนพวกเจ้าพ่อตามล่าครับ แต่ก็คงพอเดาได้น่ะครับว่าสุดท้ายแล้วฝ่ายไหนกันแน่ที่จะอ่วมอรทัย
หนังยาวราว 90 นาที แต่กว่าครึ่งนี่กระหน่ำฉากบู๊ล้วนๆ ครับ ซึ่งว่ากันถึงฉากบู๊ก็สาใจดีครับ เสี่ยงตายเพียบ ครีเอทเพียบ ส่วนมากดูแล้วมันส์ครับ ไม่ว่าจะตอนล่ากันในเมือง ตอนไปตีกันในที่ก่อสร้าง มีฉากหวาดเสียวอย่างเฮียเฉินพุ่งตัวผ่านคมเลื่อยไฟฟ้า ฉากเสี่ยงตายโดนรถทับ แต่ที่สะใจสุดๆ ต้องยกให้ฉากถล่มบ้านเจ้าพ่อตอนท้ายที่ดูลงทุนอย่างแรง
ด้านพล็อตก็ไม่ต้องคิดมากครับ มีบ้างบางๆ ให้พอมีเนื้อหา แต่หลักๆ จะไปหนักบู๊ซึ่งก็เพลินดีครับ หนังไปถ่ายทำกันที่ออสเตรเลีย ก็ได้โลเกชั่นแปลกตาไปอีกแบบ และคนกำกับเรื่องนี้ก็คือพี่หมูหินหงจินเป่า เลยไม่แปลกครับที่จะจัดหนักฉากบู๊ขนาดนั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็ถือเป็นงานกำกับแบบเต็มตัวเรื่องสุดท้ายของเฮียหงด้วยครับ (หลังจากนี้ก็มีแค่ร่วมกำกับใน หวงเฟยหงพิชิตตะวันตก)