ช่วงนี้ทาง true id ใจดีนำหนังจีนที่ไม่ได้ถูกนำเข้ามาฉายในโรงภาพยนตร์ของไทยด้วยเหตุผลบางอย่าง มาให้ชมกันฟรี ๆ แบบถูกลิขสิทธิ์ในฉบับพากย์ภาษาไทยเพื่อเอาใจคนรักหนังจีน บทความนี้ผมจะขอหยิบหนึ่งเรื่องที่ผมเพิ่งได้ชมแล้วรู้สึกว่ามีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง
Insanity แปลเป็นภาษาไทยว่าความวิกลจริต แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าเกี่ยวข้องกับปัญหาทางจิต ตัวเรื่องกล่าวถึงหมอคนหนึ่งนามโจหมิงเจี๋ย หมอจิตแพทย์ที่เก่งฉลาดมีความมั่นใจสุขุมและเย่อหยิ่ง เขาได้ดูแลคนไข้ชายที่ชื่อฟานกัวะเซิง ซึ่งสูญเสียลูกไปทำให้กลายเป็นคนวิกลจริตจนสุดท้ายลงมือฆาตกรรมภรรยาด้วยการผลักลงจากหน้าต่างห้องพัก ศาลตัดสินว่าเขาป่วยทางจิตจึงถูกส่งมาให้หมอโจดูแล สามปีถัดมาหมอโจตัดสินเสนอเข้าที่ประชุมว่าเขาหายป่วยแล้วสามารถกลับไปใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง มีคนไม่เห็นด้วยทว่าสุดท้ายทุกอย่างก็เป็นไปตามข้อเสนอด้วยการเอ่ยปากจะรับผิดชอบของหมอโจ ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีกระทั่งมีเรื่องในอดีตตามมากวนใจทำให้กัวะเซิงพลั้งมือทำบางสิ่งที่ส่งผลเลวร้ายใหญ่หลวง หมอโจที่เข้ามารู้เห็นเหตุการณ์เลยต้องหาทางคลี่คลายทุกสิ่งก่อนที่ชีวิตและอาชีพของตัวเองจะพังพินาศ ทว่าเขาเพิ่งรับรู้ว่าคนก่อเรื่องที่อยู่ตรงหน้าซึ่งเขามั่นใจว่าหายดีแล้วมีความคลั่งยิ่งกว่าที่คาดคิดไว้
หวงเสี่ยวหมิงในบทหมอโจ
เป็นหนังไซโคทริลเลอร์ที่เน้นหนักด้วยเรื่องราวทางจิตเวชซึ่งมีความลึกลับของบรรยากาศและความซับซ้อนของเรื่องราวเป็นตัวขับเคลื่อน เพราะฉะนั้นหนังจะเต็มไปด้วยฉากพูดคุยเสียมาก หากใครคาดหวังว่าจะมีฉากบู๊แอคชั่นระห่ำต้องบอกว่าไม่มีอะไรเหล่านั้นแน่นอนครับ ทว่าอย่าเพิ่งคิดว่าหนังเรื่องนี้จะไม่ดี เพราะแม้ไม่มีฉากบู๊ตามสไตล์หนังฮ่องกงแต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้ราบเรียบจืดชืดอย่างที่คิด กลับกันด้วยซ้ำตัวหนังจะเล่นกับความกดดันของตัวละคร มีฉากระทึกมีสถานการณ์พาซวยคอยบีบคั้นให้ตัวละครจนตรอก เรียกได้ว่าหนังมีความตื่นเต้นชวนให้ใคร่รู้ติดตามไปจนจบเรื่องได้เป็นอย่างดี ซึ่งสิ่งสำคัญที่ทำให้เกิดจุดนี้คือพลังการแสดงของดารานำทั้งสองคน
หวงเสี่ยวหมิง นักแสดงมากฝีมือที่ผ่านบทบาทหลากหลายมาแล้วในอดีต ทั้งขันทีปลอมจอมเจ้าเล่ห์อุ้ยเสี่ยวป้อหรือจอมยุทธอินทรีเอี้ยก้วย กระทั่งบทเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้อย่างสี่เหวินเฉียงที่เป็นคนเงียบขรึมรักชาติและผู้หญิงด้วยความจริงใจเขาก็แสดงออกมาจนทำให้คนดูประทับใจมาแล้ว ครั้งนี้เขารับบทหมอโจหมิงเจี๋ยที่ถูกสภาพการณ์บีบคั้นให้ต้องดิ้นรนเพื่อคลี่คลายทุกอย่าง มีความซับซ้อนทางอารมณ์ที่ต้องนิ่งเพื่อแสดงให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองรับมือกับทุกอย่างได้ ทว่าทั้งแววตาและลักษณะทางกายภาพจะแสดงออกให้เห็นถึงความหวาดหวั่นในใจ หวงเสี่ยวหมิงสวมบทบาทได้ดีเลยครับ เก็บรายละเอียดของตัวละครและแสดงออกได้ชัดเจนจนอดคิดไม่ได้ว่าหากเป็นคนอื่นมารับบทนี้ เราก็คงได้เห็นหมอโจหมิงเจี๋ยในบุคลิกอื่นที่อาจไม่กลมกลืนเข้ากับบรรยากาศของเรื่องอย่างที่หวงเสี่ยวหมิงแสดง
หลิวชิงหวินในบทกัวะเซิง
อีกคนที่ไม่พูดถึงไมได้เลยคือหลิวชิงหวินบทบาทฟานกัวะเซิงในเรื่องถือเป็นคีย์เวิร์ดสำคัญของเรื่อง ตัวละครของเขามีความผันผวนเพราะถูกกำหนดให้มีความวิปลาสในตัว ซึ่งการแสดงของหลิวชิงหวินดีมากเขาดูน่าหวาดระแวงไม่ควรไว้ใจในทุกครั้งที่ปรากฏตัว แถมเคมีการแสดงก็เข้ากันกับหวงเสี่ยวหมิงได้เป็นอย่างดีการรับส่งอารมณ์ที่ทวีคูณขึ้นทุกขณะของทั้งคู่ดึงความสนใจในการดูได้มากทีเดียว
ส่วนที่ผมชื่นชอบในหนังเรื่องนี้มีอย่างหนึ่งที่ชัดเจนคือการพูดถึงคนป่วยจิตเวชซึ่งรักษาตัวจนหายดีแล้วและได้กลับเข้าสู่สังคม สถานะของเขาจะถูกคนทั่วไปที่รับรู้เรื่องราวของอาการในอดีต โดยเฉพาะพวกสื่อมวลชนซึ่งทำกับพวกคนป่วยไม่ต่างจากนักโทษที่มีความอันตรายและยังหลงเหลือความไม่ปกติอยู่จนอาจส่งผลต่อจิตใจทำให้กลับมาป่วยอีกครั้ง เป็นวัฏจักรที่ทำให้โรคพวกนี้ยังวนเวียนอยู่กับคนไข้ไปตลอดกาล สาระที่แฝงอยู่ในประเด็นนี้เป็นปัญหาจริงของสังคมที่น่าสนใจมากทีเดียว
สรุปหากคุณชอบหนังแนวไซโคทริลเลอร์ที่มีความระทึกขวัญซับซ้อนซ่อนเงื่อน ทำให้สงสัยใคร่รู้ในความจริงที่อยู่เบื้องหลัง เป็นแฟนพันธุ์แท้ของสองนักแสดงนำอย่างหลิวชิงหวินกับหวงเสี่ยวหมิงและอยากดูหนังดี ๆ สักเรื่อง ผมแนะนำเรื่องนี้ครับรับรองได้เลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอนครับ