What's happening?

Video Sources 761 Views Report Error

  • Ghostbusters II (1989) บริษัทกำจัดผี ภาค 2
Ghostbusters II (1989) บริษัทกำจัดผี ภาค 2

Ghostbusters II (1989) บริษัทกำจัดผี ภาค 2

Your rating: 0
9 1 vote

Synopsis

หลังจากภาคที่แล้ว บริษัทโดนปิดไป เนื่องจากการปราบเจ้าโกเซอร์งวดก่อนมันถล่มเมืองไปเยอะครับ พวกนักปราบผีของเราเลยโดนฟ้องเรียกค่าเสียหายจนเจ๊งบ๊งกันไป แต่แล้ว 5 ปีต่อมาพวกเขาก็กลับมาอีกครั้ง เพราะเริ่มมีความชั่วร้ายก่อตัวขึ้นใต้กรุงนิวยอร์ค มันคือเมือกสีชมพูที่สามารถโต้ตอบอารมณ์ต่อคนได้ และสามารถทำให้คนคิดชั่วทำชั่วได้สารพัดหากไปสัมผัสมันเข้าล่ะ

ขณะเดียวกันที่หอศิลป์แมนฮัตตัน ก็ได้มีการจัดแสดงรูปวาดคลาสสิค และหนึ่งในรูปที่ถูกนำเข้ามาก็คือภาพของจอมคาถา 1,000 ปี วีโก้ (Wilhelm von Homburg) เจ้าชายจอมอำมหิตแห่งคาพาเทีย ผู้ที่ต้องการจะกลับมาเกิดใหม่อีกครั้งโดยผ่านร่างของทารก และทารกที่มันเลือกจะเข้าสิงก็คือ ลูกชายของดาน่า บาเรท (Sigourney Weaver) นางเอกจากภาคแรกนั่นเองล่ะครับ เพราะเธอดันทำงานที่หอศิลป์นั่นพอดี

แล้วเจ้าเมือกพวกนั้นมันเกี่ยวกับวีโก้ตรงไหนและ 4 นักปราบผีของเราอันประกอบไปด้วย ปีเตอร์ แวงค์แมน (Bill Murray), เรย์มอนด์ สแตนซ์ (Dan Aykroyd), อีกอน สเปงเลอร์ (Harold Ramis) และวินสตัน เซดเดมอร์ (Ernie Hudson) จะสามารถกลับมาเปิดปริษัทฟัดกับจอมผีได้ทันท่วงทีหรือไม่อันนี้ต้องติดตามกันครับ

Murray, Aykroyd, Weaver, Ramis, Hudson, Rick Moranis (ในบทหลุยส์ เพื่อนบ้านจอมปอดของดาน่าในภาคแรก ส่วนภาคนี้พี่แกเป็นทนายให้เหล่าหมอผีครับ) และ Annie Potts (ในบท จานีน เมลนิทซ์ เลขาของพวกนักปราบผี) กลับมากันครบ ผู้กำกับก็ยังคงเป็น Ivan Reitman ทีมงานเดิมทั้งยวงครับ ความสนุกจึงยังครบถ้วน พวก Effect ต่างๆ ลงตัวขึ้น โทนสีก็ตัดกันดีเลยล่ะครับ

งานด้านภาพผมว่ามันลงตัวแบบแปลกๆ นะ โทนสีตัวหนังมันมันดูคมและสดดีเหลือเกิน มันก็เลยให้ความรู้สึกว่าหนังมันดูครื้นเครงดีจัง เหมือนท่านจัดงานเลี้ยงน่ะครับ ผมว่าโทนสีของงาน พวกของประกอบงานมันมีผลต่ออารมณ์ของคนนะครับ ถ้ามันสดก็จะเป็นอีกโทนหนึ่ง แต่ถ้าหม่นๆ หรือไม่ค่อยสดใสก็จะให้อีกอารมณ์หนึ่ง แต่ในเรื่องนี่โทนมันให้อารมณ์สนุกน่ะครับ แล้วหนังก็สนุกตามเคยด้วย

เรื่องราวในภาคนี้ก็น่าติดตามนะ คือภาคแรกออกมาดีก็จริง แต่ภาคนี้ผมออกจะชอบกว่าหน่อย อาจจะเพราะโทนสีที่มันสดอย่างหนึ่งล่ะ แล้วก็เนื้อเรื่องที่มันผูกกันได้ไม่เลว คือภาคแรกมันมีตึกกับการมาของโกเซอร์ แต่ภาคนี้มันเป็นเรื่องเมือกกับจอมคาถาวีโก้ ซึ่งดูเหมือนจะไม่เกี่ยวกันครับ แต่ไปๆ มาๆ มันดันมาเกี่ยวกันได้

อีกทั้งลูกเล่นของหนังเพียบ ยอมรับเลยนะครับว่าทั้ง Aykroyd และ Ramis ที่เขียนบทมานี่เก่งมากๆ พวกเขาผูกเรื่องเข้ากับสถานที่ต่างๆ ในนิวยอร์คได้เฉียบอ้ะ เลือกสถานที่เกิดเรื่องได้เจ๋งมาก ไม่ว่าจะเมือกในท่อ หรือหอศิลป์แล้วก็รถไฟใต้ดินสายเก่าที่เคยมีรถไฟตกรางจนคนตายทั้งขบวน คือบรรยากาศมันชวนสยองนะครับ แต่ Reitman ก็คุมหนังไม่ให้สยองจนเกินไป มันดูเป็นในเชิงลึกลับมากกว่าน่ะครับ ประมาณว่าชวนสงสัยว่าต่อไปจะเจอกับอะไรมากกว่าจะรู้สึกกลัว โทนหนังมันเลยกลมกล่อมไม่หนักเกินไป แต่ก็ไม่ได้ไร้สาระจนเกินเหตุ พอดีๆ น่ะ

นอกจากนี้หนังยังมีลูกเล่นเจ่งๆ อีกเพียบ เอาแค่ตอนผีบุกเมืองตอนท้ายก็พอแล้วครับ เพราะมีแต่ละตนที่โผล่มานี่มีชื่อทั้งนั้น อย่างเรือไททานิคมาเทียบท่าเงี้ย เออ คิดดู มาทั้งลำเลยนะครับ แล้วยังมีอะไรให้อึ้งพอสมควรในตอนท้ายอีก พาหนะที่ 4 หมอผีของเราใช้เดินทางไปถล่มหอศิลป์เพื่อเข้าไปถล่มวีโก้ คาดไม่ถึงเลยว่าจะใช้…อะไรแบบได้เนี่ย ดูแล้วเหมือนหนังโปรโมตมหานครนิวยอร์คเลยครับ เพราะมันเอาสิ่งของหรือสถานที่สำคัญๆ ของนิวยอร์คมาเล่นตลอดทั้งเรื่องเลย

จัดเป็นภาคต่อที่ทำได้ดีไม่น้อยหน้าภาคแรกครับ ผมออกจะชอบภาคนี้มากกว่าหน่อยด้วย เพราะมุขมันเยอะ โทนสีคมดี (ไม่รู้สิครับ เท่าที่ดูหนังมาโทนสีหนังที่มันคมแบบนี้มันไม่ค่อยมีนะครับ) ดาราเจ๋ง เรื่องต่างๆ ก็พลิกเพื่อสร้างความบันเทิงอยู่ตลอด แม้แต่เจ้าสไลเมอร์ที่มากวนในภาคแรก มาภาคนี้ก็มีเซอร์ไพร์ซเหมือนกัน

อีกอย่าง คือหนังไม่ลืมที่จะแทรกสาระง่ายๆ ลงไปน่ะครับ เรื่องเมือกอารมณ์ จริงๆ มันก็เป็นการเตือนเรานะครับ เรื่องการมีสติ เพราะอารมณ์นั้นทุกคนก็มีอยู่แล้วล่ะครับ เพียงแต่มันไม่ใช่นายเรานี่หว่า เราเป็นนายมันถ้า อยู่ที่เราจะคุมมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง ผมว่าเราทุกคนไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงครับ แต่บางครั้งโทสะก็บังตาจนเป็นเรื่องขึ้นมา ซึ่งหนังก็สื่อง่ายๆ ในฉากหนึ่งตอนที่เรย์ กับวินสตันโดนเมือกหุ้มตัวแล้วก็เกิดความโกรธจนจะฆ่ากันเอง พออีกอนเห็นก็เลยตะโกนบอกให้ถอดชุดออก ถอดไอ้เมือกบ้านี่ออกจากตัว จากนั้นแล้วทั้งสองก็มีสติขึ้นมา ผมว่ามันชัดนะ เหมือนตอนเราโกรธนั่นแหละ ถ้าเราหยุดคิด ถอดไอ้อารมณ์ที่พลุ่งพล่านนั่นออกมาซะ รอให้ใจเย็นก่อน มันก็ไม่มีเรื่องอะไรแล้วล่ะ

ใช่ครับ เรื่องมันง่ายๆ ก็อยากให้ทำกันด้วยนะครับผม ตีกันไปมีแต่เสียกับเสียน่ะ พูดกันอย่างใจเย็นคงจะสวยงามกว่ากันเยอะ

สรุปว่าเป็นภาคต่อที่ทำได้สนุกครับ ดูได้เลย ต่อกันสองภาคนี่แหละ รับรองว่าคุ้มแน่ครับผม

 

Original title Ghostbusters II (1989) บริษัทกำจัดผี ภาค 2

Director

Director

Cast

Similar titles

To All the Boys Always and Forever (2021) แด่ชายทุกคนที่ฉันเคยรัก ชั่วนิจนิรันดร์
The Nanny (2018) เดอะแนนนี่
All-Star Superman (2011) ศึกอวสานซูเปอร์แมน
Taoist Master Kylin (2020) ปรมาจารย์ลัทธิเต๋า ฉีหลิน
Dinoshark (2010) ไดโนชาร์ค ฉลามยักษ์ล้านปี
True Legend (2010) ยาจกซู ตำนานหมัดเมา
Ne Zha (2019) นาจา
V.I.P. (2017) วี.ไอ.พี
Bumblebee (2018) บัมเบิ้ลบี
Don (2006) ดอน นักฆ่าหน้าหยก
American Badger (2021)
Mile 22 (2018) คนมหากาฬ เดือดมหาประลัย