เป็นหนัง The Bucket List เวอร์ชั่นวัยรุ่น หรือถ้าให้ขยายความอีกหน่อยก็คือ มันเป็นเรื่องของคนสองคนที่ป่วยใกล้ตาย จับพลัดจับผลูมาเป็นเพื่อนกัน และร่วมทำกิจกรรมหรือความฝันที่อยู่ในลิสต์รายการสิ่งที่อยากทำก่อนตาย แต่จากเดิมที่หนังอีกเรื่องเป็นเรื่องของคนแก่สองคนที่โรครุมเร้าใกล้ตาย เรื่องนี้ให้สองตัวเอกเป็นวัยรุ่นหนุ่มสาวที่บ้าหลุดโลกแทน
Departures เป็นหนังที่มีสตอรี่ที่ดี เล่าเรื่องการหาทางออกจากปัญหาหรือความทุกข์ซ้ำ ๆ และเปิดรับโอกาสหรือความสุขใหม่ ๆ ถึงแม้หนังจะค่อนข้างตามสูตร ไม่มีอะไรใหม่มาก และไม่ได้เป็นหนังที่ยอดเยี่ยม แต่ก็เป็นหนังที่ตอบโจทย์ในเรื่องของความฟีลกู้ด ซัพพอร์ตในด้านกำลังใจและแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต โดยรวมจึงเป็นหนังดูได้เรื่อย ๆ เพลิน ๆ และมีอะไรให้ชวนยิ้มชวนหัวเราะตลอด จนกระทั่งถึงตอนจบของหนัง
Departures เป็นหนังที่หน้าหนังฉาบไว้ด้วยความ Feel Good ทำให้รู้สึกน่าสนใจ แต่พอดูจบเราก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเรียกมันว่าหนัง Feel Good มั้ย เพราะนี่คือหนังที่มีส่วนผสมของความดราม่า และตลกไว้อย่างลงตัว พาร์ทที่ตลกก็ตลกไล่ไปตั้งแต่อมยิ้ม ถึงขำจริงจัง แต่ด้วยความที่หนังก็มีเรื่องของความเป็นความตายและโรคภัยไข้เจ็บมาเกี่ยวข้อง นี่ก็เป็นหนังที่ทำเราเศร้าซึ้งมากๆเหมือนกัน
เอซา บัตเทอร์ฟิลด์ ยังคงเป็นนักแสดงชายที่ได้เล่นแต่หนังที่มีบทดีๆจริงๆ แต่เราก็แอบรู้สึกว่าบทมันช้ำนิดหน่อย ตรงที่เอซามักจะเล่นเป็นคนที่มีอะไรไม่ปกติสักอย่าง ไม่ว่าจะใน X+Y, Ender’s Game, Sex Education และมาจนถึงเรื่องนี้ก็ยังคงเป็นคนที่มีปม ในขณะที่ เมซี วิลเลี่ยมส์ นั้นผมยังไม่เคยดูหนังที่เธอแสดงอย่าง Game of Thrones แต่เรื่องนี้เมซี เล่นได้ดีและเข้าขากับเอซามาก ในเรื่องเธอรับบทเป็นคนป่วยที่จะอยู่ได้อีกไม่นาน และก็เพราะบทของเธอคนนี้นี่แหละ ที่ทำให้ผมต้องเสียน้ำตา
แม้พลอตเรื่องจะไม่ซับซ้อนอะไร และเราแอบรู้สึกว่ามันก็คล้ายกับหนังบางเรื่องที่เราเคยดู ที่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องเตรียมจะตายจากไป แต่หนังเรื่องนี้กลับมีอะไรที่ต่างออกไปจากหนังรักซึ้งๆน้ำตาไหลแบบนั้น Departures เต็มเปี่ยมไปด้วยมิตรภาพ ความหมายของชีวิต และการใช้ชีวิต แม้จะฉาบด้วยความตลกและเศร้าซึ้ง แต่ดูแล้วก็ได้กลับมาคิดอะไรอีกหลายอย่างเลยทีเดียว
โดยรวมใครชอบหนังดราม่าซึ้งน้ำตาไหล หรือหนัง Feel Good นี่เป็นหนังอีกเรื่องที่น่าสนใจมากๆครับ แม้ว่าเราจะพูดไม่เต็มปากว่าเป็นหนังประเภทไหนแน่ เพราะหนังมีส่วนผสมความเป็นลูกครึ่งของทั้งดราม่า และตลกฟีลกู๊ด แต่มันเป็นหนังที่ผสมทั้งสองส่วนได้ค่อนข้างลงตัวเลยทีเดียว