เข้าฉายที่อเมริกาไปก็ร่วมเกือบ 3-4 เดือน เพราะฉะนั้นแผ่นที่เมืองนอกก็จะออกตามมาในไม่ช้า แต่เนื่องด้วยใจที่รักค่ายหนัง พิกซ่าร์ จึงไม่รีรอที่จะไปอุดหนุนถึงแม้จะมีคำวิจารณ์ด้านลบมามากพอสมควรอยู่ก็ตามที ซึ่งในภาคแรกก็ไม่ได้ติดใจอะไรด้วยเช่นกัน ซึ่งตัวหนังจะห่วยสมคำร่ำลือหรือไม่ไปอ่านเลยครับ
Cars 2 เรื่องราวยังดำเนินต่อไปของ 2 เพื่อนซี้คู่หูอย่าง รถแข่งสุดเร็ว แมคควีน และเพื่อนซี้รถลากอย่าง เมเทอร์ ที่คราวนี้ แมคควีน ได้รับคำเชิญให้เข้าแข่งขันรถแข่งที่เร็วที่สุด โดยสนามแข่งจะอยู่ในหลายประเทศแตกต่างกันไป แต่พวกเขาหากรู้หรือไม่ว่ามีรถที่คิดจะวางแผนทำให้การแข่งขันนี้ล่มลงเพราะเหตุของการขัดแย้งทางธุรกิจต่างๆในด้านน้ำมัน แต่ยังดีที่มีสายลับอังกฤษอย่างแมคมิสไซส์เข้ามาช่วยขัดขวางภารกิจครั้งนี้ แต่แล้ว เมเทอร์ รถลากของเราก็กลับถูกเข้าใจผิดว่ากลายเป็นสายลับด้วยซะงั้น คราวนี้เมเทอร์และมิสไซส์จึงต้องร่วมมือกันเพื่อหยุดแผนอันชั่วร้ายครั้งนี้ให้จนได้
Cars 2 กำกับโดย John Lasseter หรือรู้จักกันดีในนามของผู้สร้างเหล่าก๊วนของเล่นอย่าง Toy Story และเหล่าก๊วนแมลงจอมป่วนใน A Bug’s Life และรวมไปถึงผู้ที่ให้กำเนิดเหล่ารถพูดได้อย่าง Cars ในภาคแรกด้วยเช่นกัน ซึ่งสำหรับการ์ตูนเรื่อง Cars นั้นถือว่าเป็นการ์ตูนที่คำวิจารณ์แย่ที่สุดในบรรดาเหล่าการ์ตูน พิกซ่าร์ ด้วยกันทั้ง 10 กว่าเรื่อง
แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรนั้น ผู้กำกับ John Lasseter ถึงคิดอยากจะชุบชีวิตเหล่า รถยนต์ พูดได้ขึ้นมาเป็นครั้งที่ 2 อีก ทั้งที่ภาคแรกก็ไม่ได้สนุกอะไรมากมายนักหรอก แต่ในเมื่อสร้างออกมาแล้วก็ไม่พลาดที่จะไปดูเช่นกัน ซึ่งก่อนอื่นถึงแม้จะบอกว่าไม่ได้สนุกกับ Cars ภาคแรกมากมายแต่ก็ไม่ได้มีอคติกับการ์ตูนเรื่องนี้สักเท่าไหร่ หน้ำซ้ำในภาค 2 นี้ต้องขอชมเป็นพิเศษด้วย โดยอย่างแรกที่ต้องบอกเลยนั้นคือ
การที่ผู้กำกับถือว่าพัฒนาความสนุก และ ยกระดับ จากภาคแรกขึ้นมาได้พอสมควรเลยหละ โดยใน ภาค 2 หนังเน้นไปที่การแข่งรถระดับโลก โดยไม่ต้องปูบทอะไรให้มากความนัก จึงทำให้ภาค 2 นี้นั้นอุดมไปด้วยฉากแอ็คชั่น และ การแข่งรถที่ดูสนุกและตื่นตาของเหล่าบรรดา รถแข่ง ทั้งหลายที่ออกแบบมาได้น่ารัก และ ลงตัวไปกับฉากพื้นหลังของหนัง
รวมไปถึงด้านของความเป็นมิติในระบบ 3D ที่ถือว่าทำออกมาได้ดูทะลุจอและสนุกกว่าหนังการ์ตูนเรื่องอื่นๆทั่วไป (คงเพราะสีที่จัดจ้านจึงทำให้หนังดูสนุกมากขึ้น) และด้านของอารมณ์ขันในหนังการ์ตูนของ พิกซ่าห์ ที่ต้องขอบอกว่าเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้
ดูแล้วฮากว่าการ์ตูนพิกซ่าห์เรื่องอื่นๆอยู่หลายเท่านัก คงเป็นเพราะความไร้สาระของตัวละคร เมเทอร์ ขวัญใจคนดูเลยอาจจะทำให้ฮาเพิ่มขึ้นก็เป็นได้ (โดยส่วนตัวการ์ตูน พิกซ่าร์ สนุกและดีทุกเรื่อง เพียงแต่อารมณ์ขันน้อยไปหน่อย เน้นนักไปทางดราม่าแบบเนียนๆซะมากกว่า) แต่ยังไงก็ตามถึงแม้จะอวยมาถึงขนาดนี้แล้ว แต่ก็น่าเสียดายที่การ์ตูนพิกซ่าร์เรื่องนี้ ถือว่ามีข้อเสียให้จับผิดได้เยอะมากพอสมควร และมันไม่น่าเกิดขึ้นกับการ์ตูนพิกซ่าร์เลย ซึ่งอย่างแรกเลยคือ บท ที่ต้องบอกว่าผิดหวังมาก ไม่คิดว่าสักวันนึงจะเกิดขึ้นมากับการ์ตูน พิกซ่าร์ เพราะบทใน Cars 2 ต้องบอกว่า ต่ำกว่ามาตรฐานอยู่พอควร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของ มิตรภาพ ระหว่าง แมคควีน และ เมเทอร์ ที่ดูแล้วไม่สามารถจับเป็นชิ้นเป็นอันได้ ไม่เหมือนอย่างที่ภาคแรกเคยทำไว้เลยสักนิดเดียว
และรวมไปถึงด้านของแก่นสาระหนังที่พยายามจะทำเรื่องราวของการ กัดจิก น้ำมันและโรคร้อน ที่ดูแล้วเหมือนกับว่าจะไปโจมตีพวกประเทศขุดเจาะน้ำมันแบบอ้อมๆซะมากกว่าจะทำมาเพื่อให้ข้อคิดกับคนดู และรวมไปถึงในภาคนี้ที่ขาดสิ่งที่สำคัญที่สุดของหนัง พิกซ่าร์ คือการสร้างเสน่ห์และสิ่งน่าจดจำในหนังให้กับคนดู แต่น่าเสียดายที่ภาคนี้ดันไม่มีอะไรมามอบให้คนดูได้เลยสักนิด ถึงแม้ว่าภายในตอนจบของหนังพยายามจะเรียกน้ำตาแบบที่ Toy Story 3 เคยทำมาแล้ว แต่ก็กลับไม่ได้ผลอย่างที่ว่าเอาไว้ จึงทำให้การ์ตูนชุด Cars ในภาคนี้ไม่แปลกใจเลยทำไมถึงโดนสับเละด้านของเนื้อหาและบทหนัง
แต่ยังไงก็ตามนั้นโดยสรุปแล้ว Cars 2 ถือว่าเป็นการ์ตูนอีกเรื่องของ พิกซ่าร์ ที่ยังคงความสนุกของหนังไว้ได้เต็มที่ ซึ่งถ้าเด็กๆไปดูต้องชอบเป็นแน่แท้ เพียงแต่ว่าถ้ามองในอีกมุมนึงนั้น บทหนัง ในภาคนี้ดูอ่อนลงไปกว่ามาตรฐานของค่าย พิกซ่าร์ อยู่มากพอสมควร เพราะฉะนั้นจงอย่าเครียดกับด้านบทมากนักเชียว