Altered Carbon จะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับโลกในยุคอนาคตอันไกลโพ้น ที่มนุษย์แทบจะสามารถเอาชนะความตายด้วยการถ่ายทอดข้อมูลและความทรงจำของตนเองลงบนสแต็ก แล้วสามารถใช้ร่างกายใหม่ในฐานะเปลือก ทำให้มนุษย์ที่มีฐานะร่ำรวย เป็นชนชั้นสูงแทบจะเป็นอมตะ และหาทางรักษาประโยชน์ของพวกตนไว้
ส่วนเรื่องราวในฉบับอนิเมะ ก็เป็นพล็อตเรียบง่าย เมื่อตัวเอกของซีรีส์ชุดนี้คือ ทาเคชิ โคแวช ถูกส่งจิตข้ามดวงดาวแล้วมาใช้ร่างเปลือกใหม่ ซึ่งเขาถูกว่าจ้างโดยหัวหน้ายากูซ่าคนสำคัญอย่าง ทานาซเดะ ฮิเดกิ ให้ตามคุ้มครองเด็กสาวนักสักคนหนึ่งที่ชื่อ ฮอลลี่ ซึ่งเชื่อว่ามีความสำคัญในพิธีเปลี่ยนผ่านผู้นำขององค์กรยากูซ่ามิซุโมโตะ ซึ่งผู้นำกลุ่มคือน้องชายของเขา
ในขณะที่ฮอลลี่ก็ถูกตามล่าโดยกลุ่มนินจาปริศนา แล้วยังมีหญิงสาวหน่วยรบพิเศษอีกคนคือ จีน่า ที่ได้รับคำสั่งให้เข้ามาติดตามคดีนี้ด้วย ทั้งสองจึงต้องช่วยเหลือคุ้มกันฮอลลี่จากการตามล่าของกลุ่มนินจามือสังหาร และต้องสืบหาความจริงของการชิงอำนาจกันในกลุ่มยากูซ่า ว่าแท้จริงแล้วมีอะไรอยู่เบื้องหลัง
จุดที่ภาพยนตร์อนิเมชั่น ทำไว้ได้ดี ชนิดดีเกินคาดมาก ก็คือฉากแอ็กชั่น แนวเลือดสาดที่แทบจะมาทุก 10 นาที แถมทำได้ดีด้วย พูดตรงๆคือฉากแอ็กชั่นทำได้สะใจกว่าซีซัน 2 ด้วยซ้ำ แถมนี่เป็นครั้งแรกที่คนดูจะได้เห็น ทาเคชิ บู๊ได้โหดดิบและโชว์ความเก่งในฐานะอดีตเอนวอยคนสุดท้ายให้สมกับบทบาทหน่อย เรียกว่าเป็นการเซอร์วิสคนดูแบบเต็มอิ่มไปเลย
ในด้าน CG ก็ทำออกมาได้ยอดเยี่ยม รวมถึงลักษณะของลายเส้น ที่ผสมผสานกับการตัดเส้นเงาราวกับภาพวาดพู่กัน มีเอกลักษณ์มาก รวมถึงการเคลื่อนไหวของตัวละครและภาพกราฟฟิกที่ทำได้ดีมาก ขนาดฉากสูบบุหรี่ แล้วมีควันออกมายังทำซะสมจริงเลย
แล้วก็ต้องยอมรับเลยว่า มีอยู่จุดหนึ่งที่ทีมสร้างอนิเมชั่นขยายเรื่องได้ดีมากก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องของ ทาเคชิ และ เรลลีน ที่ในซีซันแรกเอามาเป็นปมใหญ่ชนิดที่ว่าเป็นปมหลักของเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่ก็เป็นการผูกปมในแง่ที่ทำให้ความรักของเรลลีนส่งผลไปทางสายดาร์กมากกว่า
แต่การกลับมาคราวนี้ ฝั่งอนิเมชั่นของญี่ปุ่นเลือกที่จะนำเสนอความรักที่เรลลีนมีต่อทาเคชิในแง่บวก และทำให้เราได้เห็นว่า ที่จริงตัวละครนี้ก็ไม่ใช่คนเลวหรือคนเห็นแก่ตัวอะไรนักหนา จากบทบาทที่แสดงผ่านออกมาในเรื่องว่าเธอก็มีความเห็นใจให้กับฮอลลี่เหมือนกัน
สำหรับจุดหนึ่งที่เหมือนจะกลายเป็นจุดขายของ Altered Carbon ไปแล้วหรือเปล่า ก็คือบทของตัวละครเอไอ ที่มักจะขโมยซีนสำคัญๆในเรื่อง แบบที่ในซีรีส์เองก็มี โพ เป็นตัวขโมยซีนที่โดดเด่น ส่วนในฉบับอนิเมชั่นก็มีหุ่นเอไอคือ โอไก ที่ออกมาขโมยซีนได้อย่างสุดยอดเช่นกัน
ส่วนปมปริศนาในเรื่องก็ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนอะไรมากนัก คือถ้าดูซีรีส์เรื่องนี้มาก่อน จะพอเดาทางได้ว่าใครคือผู้ร้ายตัวจริง และแรงจูงใจคืออะไร ซึ่งก็เป็นประเด็นที่ตัวซีรีส์เล่นมาตลอดเกี่ยวกับความโลภของมนุษย์ และการเปลี่ยนถ่ายสแต็กไปเรื่อยๆ เพื่อรักษาชีวิตตัวเองไว้ให้เป็นอมตะที่สุด
ในภาพรวมแล้ว เป็นงานภาพยนตร์อนิเมชั่นที่ก็ไม่ได้ยาวมากนัก แค่ประมาณ 1.14 นาที แต่ก็เป็นการขยายจักรวาลของ Altered Carbon ให้เข้าสู่โลกของอนิเมชั่นได้อย่างสมศักดิ์ศรี ซึ่งทำออกมาแล้วสนุกกว่าซีรีส์ในซีซัน 2 เสียอีก คาดว่าในอนาคตก็น่าจะมีการต่อยอดออกมาได้อีก ซึ่งแนวไซไฟแบบแอ็กชั่นดาร์กไซเบอร์พังก์ก็เป็นของถนัดของอนิเมญี่ปุ่นอยู่แล้วเหมือนกัน