คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อวันหนึ่งคุณตื่นขึ้นมาแล้วมารู้ภายหลังว่า พ่อแม่ที่คุณอยู่ด้วยตลอดชีวิต ไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง และตัวคุณเองก็ไม่รู้ด้วยว่า เป็นใคร? มาจากไหน? กระทั่งจู่ๆ ก็มีองค์กรอะไรก็ไม่รู้ ออกมาตามล่าคุณ นี่คือเนื้อเรื่องหลักๆ ของภาพยนตร์ที่เราจะมาคุยกันในวันนี้ครับ คือเรื่อง “Abduction พลิกโลกล่าสุดนรก” ถ้าเราจะพูดถึงภาพยนตร์แอ็คชั่นของฮอลลีวู้ดในขณะนี้ โดยเฉพาะนักแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นรุ่นใหม่ๆ นี่ค่อนข้างหายากสักหน่อย ทว่าเราจะดูหนังแอ็คชั่นมันส์ๆสักเรื่อง ถ้าไม่พึ่งนักแสดงแอ็คชั่นรุ่นใหญ่อย่าง บรูซ วิลลิส หรือไม่ก็ ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน ก็อาจจะใช้นักแสดงรุ่นกลางๆ ซึ่งเห็นจะมีไม่กี่คน แต่ตอนนี้มีนักแสดงวัยรุ่นหน้าใหม่หาญกล้าที่ประกาศตัวเองออกมาว่า เขาอยากจะเป็นนักแสดงภาพยนตร์แอ็คชั่นเลือดใหม่ให้ได้ เขาผู้นั้นคือ “เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์” (Taylor Lautner) เจคอบ หมาป่าคู่แข่งความรักของแวมไพร์ เอ็ดเวิร์ด ในภาพยนตร์ตระกูล Twilight นั่นเอง แม้ว่าในภาคแรก เทย์เลอร์ ยังไม่สามารถเรียกเสียฮือฮา จากสาวๆได้เท่า โรเบิร์ต แพททินสัน เทพบุตรแวมไพร์ หน้าขาวปากแดง เพราะว่าในภาคแรกนี้ เทย์เลอร์ ไว้ผมยาวดูเซอร์ๆ รกรุงรัง แต่พอมาภาค 2 เปลี่ยนคาแร็คเตอร์ใหม่ ทำให้ดูดีขึ้นมาก สาวๆ ก็เทใจมาทางเทย์เลอร์ เกือบหมด ด้วยความแรงของเทย์เลอร์ ทำให้เขาต้องหาบทใหม่ๆ ลองเล่นดูบ้าง นอกจากบทหมาป่าใน Twilight แล้ว เขาได้รับเล่นในบทเล็กๆ ในภาพยนตร์รวมเรื่องรักอย่าง Valentine’s Day แม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับเทย์เลอร์มากนัก แต่ก็ไม่ทำเทย์เลอร์ท้อแท้ ตรงข้ามเขากลับมาคิดว่า ที่เขาต้องสร้างกล้ามเนื้อชมาซะฟิตปั๋ง ประเภท รูปหล่อ กล้าใหญ่ ขนาดนี้น่าจะหาหนังแอ็คชั่นสักเรื่องเล่นก็คงจะดีนะ
ประจวบเหมาะกับที่ จอห์น ซิงเกิลตัน (John Singleton) ผู้กำกับผิวดำกำลังจะสร้างเรื่อง “Abduction พลิกโลกล่าสุดนรก” พอดีและเขาก็มองแล้วว่า บทเด่นของเรื่องนี้ ต้องเป็น เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์ เท่านั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า บทของ “เนธาน” ในเรื่อง ตรงกับเทย์เลอร์มากที่สุด ทั้งเรื่องของอายุ ความสามารถ พื้นฐานด้านกีฬา และศิลปะการต่อสู้ ไหวพริบ ทุ่มเทกับงาน และที่สำคัญ เทย์เลอร์ ยังมีเสน่ห์ทั้งกับเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามด้วย ด้วยเหตุนี้ เทย์เลอร์จึงรับเล่นเรื่องนี้ในทันทีทันใด ถ้าพูดถึงผู้กำกับแล้ว จอห์น ซิงเกิลตัน แม้ว่าผลงานของผู้กำกับท่านนี้มีไม่กี่เรื่อง คือเรื่อง “Abduction พลิกโลกล่าสุดนรก” เป็นเรื่องที่ 3 ของเขา ซึ่งก่อนหน้านี้ จะมีเรื่อง “2 Fast 2 Furious” ออกฉายเมื่อปี 2003 และเรื่อง “Four Brothers” ออกฉายเมื่อปี 2005 การันตีเอาไว้ ซึ่งหนังทั้งสองเรื่องที่ผ่านมา ก็ไม่ฮอตฮิตเท่า Abduction แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่า ความร้อนแรงของเรื่องนี้จะทำให้หนังประสบผลสำเร็จได้ คงต้องรอพิสูจน์กัน
ในส่วนของเรื่องย่อ เริ่มที่หนุ่มวัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่ง เนธาน (เทย์เลอร์ เลาท์เนอร์) วัย 18 ปี มีชีวิตอยู่ในโรงเรียนและบ้านอย่างเงียบๆ ซึ่งดูทุกๆสิ่งทุกๆอย่างรอบตัวเขาจะราบรื่น แต่ในใจของเขากลับไม่มีความสุขในชีวิตอย่างนี้เลย เขากลับมองว่าตัวเองกำลังใช้ชีวิตของคนอื่นอยู่ และสิ่งที่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงของชีวิตเขาตลอดไปเมื่อเพื่อนสนิทของเขา คาเรน (ลิลี่ คอลลินส์) ไปพบรูปของเขาบนเว็บไซต์คนหาย ทำให้เขาได้รู้ว่าพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง แล้วเรื่องเลวร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อพ่อแม่ที่เลี้ยงเขามาถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ในขณะเดียวกัน เมื่อเขาเริ่มสืบหาความจริงก็พบว่าตัวเองตกเป็นเป้าหมายของนักล่าสังหารมืออาชีพและคนของรัฐบาล เขาจึงตัดสินใจหนีไปกับเพื่อนคนเดียวที่ไว้ใจได้ดีที่สุดอย่าง คาเรน และตามหาต้นตอเพื่อหยุดเหตุการณ์ทุกอย่างและสิบหาความจริงว่าตัวเองเป็นใคร พอดูจบแล้วรู้สึกว่าหนังเรื่องนี้เป็นหนังแอ็คชั่นเบาๆ ไม่ได้มีอะไรที่ตื่นตาตืนใจมากนัก น่าจะเป็นหนังแอ็คชั่นที่ลงทุนไม่มากนักผสมกับดราม่าอีกครึ่งเรื่องในสัดส่วนที่เท่าๆกัน เรียกว่าช่วงครึ่งเรื่องแรกไม่มีแอ็คชั่นให้เห็นเลย นอกจากตอนที่พระเอกซ้อมต่อสู้กับพ่อ ซึ่งก็ดูเฉยๆ เหมือนการซ้อมมวยทั่วไป ถ้าเป็นคนเบื่ออะไรง่ายๆ ก็คงต้องเบื่อช่วงแรกนี้แหละ ส่วนครึ่งเรื่องหลังจะมีฉากแอ็คชั่นจริงๆเข้ามาแล้ว แต่ส่วนมากจะเป็นการต่อสู้แบบมือเปล่ามากกว่าที่จะมีการยิงกันแบบหูดับตับไหม้เหมือนหนังแอ็คชั่นทั่วๆไป เรียกว่าถึงจะเป็นฉากบู๊ก็ยังบู๊ไม่สุด ส่วนฉากต่อสู้ที่สนุกที่สุดในเรื่องนี้น่าจะเป็นฉากต่อสู้บนรถไฟ เนื้อเรื่องอาจจะคาดเดาได้ง่ายไปสักหน่อยสำหรับนักดูหนัง ยิ่งตอนจบผมว่าเฉยมากเลย ไม่ค่อยมีอะไรที่น่าตื่นเต้นเท่าไหร่ อยากเล่าตอนจบให้ฟัง แต่กลัวจะเสียอรรถรสในการชม หนังเดินตามสูตรเป๊ะ มีการทิ้งเชื้อเอาไว้นิดหน่อยถึงพ่อที่แท้จริงของพระเอก ให้เห็นแว็บๆ ประมาณว่าถ้าภาคนี้ประสบผลสำเร็จก็มีภาคสองต่อแน่ๆ